
YVOIRE ฟิลเลอร์ คุณภาพพรีเมียมที่ทั่วโลกต่างยอมรับ
ธันวาคม 7, 2022
โบ กับ แฟต เช็คให้แน่ใจแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
ธันวาคม 7, 2022เคยเจอมั้ย ? ว่าทำไมหลังจากที่ทำจมูก ทำไมหน้าถึงยังดูบวม ๆ อยู่ ต้องลดอาการบวมด้วยวิธีไหน และหลังจากเสริมจมูกจะมีอาการอย่างไรบ้าง ลองมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับ 4 อาการ หลังทำจมูก ที่พบได้บ่อย และจะอันตรายมากน้อยแค่ไหน ? จำเป็นต้องพบแพทย์โดยด่วนหรือไม่ และจะมีวิธีดูแลตัวเองหลังจากการศัลยกรรมจมูกด้วยวิธีใดบ้างนั้น สามารถอ่านได้ในบทความนี้

4 อาการที่พบบ่อย หลังทำจมูก
- จมูกบวม
หลังจากเสริมจมูกแล้วมีอาการจมูกบวม นั่นคืออาการโดยปกติทั่วไปที่พบได้บ่อยหลังจากการผ่าตัดทำศัลยกรรมจมูก เพราะการผ่าตัดจะทำให้ผิวหนังบาดเจ็บ การบวมช้ำในบริเวณที่ผ่าตัดจึงเป็นการฟื้นตัวในระยะแรก ของร่างกายโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรกหลังการผ่าตัด ซึ่งอาการบวมช้ำจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล และสามารถหายไปเองได้ แต่ถ้าหลังจากการผ่าตัดอาการบวมยังบวมขึ้นเรื่อย ๆ นานกว่า 7-14 วัน อาจหมายถึงการติดเชื้อ จำเป็นต้องพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
- มีน้ำใสไหลออกมา
น้ำใส ๆ ที่ไหลออกจากจมูกหลังจากการผ่าตัดเสริมจมูก เป็นอีกหนึ่งอาการที่สามารถพบได้บ่อยอีกเช่นกัน สาเหตุมาจากมีน้ำมูก หรือเป็นพวกสารคัดหลั่งจากเยื่อบุโพรงจมูก ไหลมาจากบริเวณโพรงจมูก อาจจะต้องทานยาลดน้ำมูก และอย่าให้น้ำมูกไหลมาโดนแผลเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ แต่ถ้าน้ำที่ไหลออกมาเป็นสีอื่น เช่น เลือด น้ำเหลืองหรือหนอง และไหลออกมาจากบริเวณแผลผ่าตัด นั่นอาจจะเป็นการติดเชื้อ หรือจมูกอักเสบ ควรรีบพบแพทย์จะดีที่สุด
- รู้สึกตึงจมูก
อาการรู้สึกตึงหลังจากการทำจมูก เป็นสิ่งที่พบได้บ่อย เพราะมีสิ่งแปลกปลอมอย่างซิลิโคนเสริมเข้าไปภายในจมูก ส่งผลให้ผิวหนังและเนื้อถูกดันจนตึง ยิ่งบริเวณปลายจมูกจะยิ่งรู้สึกตึงมากเป็นพิเศษ ซึ่งอาการตึงจมูกนี้จะค่อย ๆ หายได้เองหากผิวหนังของเราในบริเวณนั้นเริ่มปรับสภาพให้เข้ากับซิลิโคนได้แล้ว และในกรณีที่เสริมจมูกไปเป็นเวลานานแล้ว เกิดรู้สึกตึงจมูกมากเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุของอาการ จมูกทะลุ ได้ ดังนั้นควรรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับคำปรึกษาทันที
- คันแผลตกสะเก็ด
หลังจากการผ่าตัดผ่านไปได้สักพัก แผลจะเริ่มตกสะเก็ด เพื่อช่วนให้รั้งผิวหนังใหม่มาทดแทนส่วนที่โดนกรีดเมื่อตอนผ่าตัด ซึ่งเนื้อเยื่อที่เพิ่งสร้างขึ้นมาทดแทนใหม่นี้ยังไม่มีน้ำมันในผิว จึงเป็นสาเหตุที่แผลตกสะเก็ดแห้ง จนทำให้รู้สึกคันบริเวณที่แผลตกสะเก็ดอยู่บ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงการเกา การแกะ ขยี้ เพื่อไม่ให้โดนสะเก็ดแผลนั้นหลุดออกมา เพราะจะทำให้แผลกระทบกระเทือน จนอาจปริแยกออกทำให้แผลเปิด และจะทำให้หายช้าลงได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือการอักเสบ ถ้าหากมีสิ่งสกปรกเข้าไปในแผล
การดูแลตัวเองหลังจากเสริมจมูก
หลังจากการทำศัลยกรรมจมูกแล้ว ควรดูแลตัวเองให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์จะดีที่สุด โอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อ และการเกิดแผลคีลอยด์หลังผ่าตัดก็จะน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งการดูแลตัวเองหลังจากทำจมูกแล้ว จะแบ่งออกตามระยะเวลาดังนี้
- ประคบเย็น : หลังจากการผ่าตัดควรจะประคบเย็นเป็นเวลา 4-5 วัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการประคบอาจจะใช้เป็นเจลแพ็ค ผ้าขนหนูเปียกที่แช่ในช่องแช่แข็ง หรืออาจจะใช้ผ้าห่อน้ำแข็งในการประคบได้ ซึ่งการประคบเย็น จะช่วยควบคุมการเสียเลือด ลดความเจ็บปวด ลดการบวมของแผล และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดระดับรุนแรง ซึ่งส่งผลทำให้จมูกเบี้ยวได้
- ประคบอุ่น : หลังจากการผ่าตัดครบ 1 สัปดาห์แล้วให้เปลี่ยนจากการประคบเย็ยมาเป็นการประคบอุ่น เพราะความร้อนจากการประคบอุ่นจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว จะช่วยให้ลิ่มเลือดเก่าละลายได้เร็วขึ้น เส้นเลือดยังรับการดูดซึมกลับของสารน้ำต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ในเนื้อเยื่อได้ง่ายขึ้น และยังส่งผลให้พังผืดภายในที่แข็งเป็นไตอ่อนนุ่มเร็วขึ้นด้วย
- นอนยกหัวสูง : สำหรับในช่วงเวลาหลังจากการผ่าตัดทำศัลยกรรมจมูก 3-5 วัน ควรนอนโดยการใช้หมอนสูง หรือนอนให้หัวอยู่สูงกว่าปกติเพื่อให้สูงกว่าระดับหัวใจ จะช่วยในเรื่องของการยับยั้งการรั่วไหลของสารน้ำออกจากเส้นเลือด ซึ่งจะลดอาการบวมลงได้
- อาหารช่วยลดบวม : การเลือกทานอาหารหลังจากการผ่าตัดก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การดูแลตัวเองด้วยวิธีอื่นเช่นกัน เพราะอาหารที่มีประโยชน์อย่าง ฟักทอง สาหร่าย ใบบัวบก ถั่วดำ ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินเอ แร่ธาตุ ใยอาหาร และธาตุเหล็ก ทั้งหมดนี้จะช่วยในเรื่องลดอาการบวมช้ำ ลดการติดเชื้อหลังผ่าตัด ช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่น และยังช่วยบำรุงโลหิตได้อีกด้วย
โดยปกติแล้วหลังจากการทำจมูก จะมีอาการบมช้ำหลังผ่าตัดเป็นเรื่องปกติ และพบได้บ่อย ดังนั้นคนที่เพิ่งเสริมจมูกมาควรดูแลตัวเองให้ถูกวิธี ทำตามคำแนะนำของแพทย์ งดและหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นข้อห้าม ทั้งการงดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ การหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการแพ้ หรืออาหารที่ทำให้ใบหน้าบวมแดง เพื่อลดการอักเสบและการติดเชื้อ รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน การสัมผัสจมูก การออกกำลังกายหนักที่ทำให้เกิดแรงกระแทก