
ศัลยกรรม ตา 2 ชั้น แบบเกาหลี สวยสไตล์สาวหวาน
ตุลาคม 14, 2023
ย้อนวัย หน้าเด็ก ฉีด Filler ขอนแก่น ที่ Ticha Clinic
ตุลาคม 20, 2023เชื่อว่าสิ่งที่หลาย ๆ คนยังคงเป็นกังวลอยู่ เกี่วกับการฉีด โบกราม ถึงแม้ว่าจะมีประวัติเคย ฉีดโบ มาแล้วก็ตาม ความกังวลที่มักจะเกิด เมื่อต้องฉีดโบ มีทั้งปัญหาใบหน้าแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ ยิ้มแล้วหน้าตึง แบบแปลก ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกเคสที่ฉีดแล้วจะเกิดปัญหาดังกล่าว เพราะถ้าหากเข้ารับบริการ กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็จะทำให้การฉีดโบ เป็นไปอย่างปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และดูเป็นธรรมชาติ โดยในครั้งนี้ Ticha Clinic จะมาแนะนำสิ่งที่ต้องรู้ก่อนการฉีดโบ ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้
การฉีดโบ (โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ)
การใช้โบ หรือชื่อเต็มก็คือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ เป็นสารสกัดที่ได้จากแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่ส่งผลต่อ การทำงานของกล้ามเนื้อ เพราะตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ยับยั้งการทำงาน ของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อขยับน้อยลง ริ้วรอยก็จางลง ผิวก็จะมีความตึงกระชับขึ้น และขนาดของกล้ามเนื้อก็เล็กลงด้วย ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้ โบจึงถูกนำมาใช้ในการเสริมความงาม

- โบริ้วรอย : ฉีดเพื่อลดเลือน ริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าตึงกระชับ นิยมฉีดที่บริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ริ้วรอยบริเวณหางตา รวมไปถึงบริเวณอื่นรอบ ๆ ดวงตา การฉีดโบริ้วรอย เหมาะกับการแก้ไขปัญหา ริ้วรอยที่เป็นเส้นเล็ก ๆ
- โบกราม ปรับรูปหน้า : โปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับการฉีดโบ นั่นก็คือ การฉีดเพื่อ ปรับรูปหน้าให้เป็น V-Shape สำหรับคนที่มี กล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่ ทำให้ หน้าบาน หรือใบหน้าไม่ได้สัดส่วน การฉีดโบจะช่วยทำให้ กล้ามเนื้อกราม มีขนาดลดลง ใบหน้าจึงดูเรียวเล็ก
- โบลิฟต์กรอบหน้า : โบลิฟต์กรอบหน้า หรือการทำลิฟติ้ง จะเป็นการฉีดโบเพื่อ การยกกระชับผิวหน้า ฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ เพื่อที่จะลดการดึงแก้มให้น้อยลง ในการฉีดโบลิฟต์กรอบหน้า จะฉีดที่บริเวณกรอบหน้า ใต้คาง เน้นทำให้กรอบหน้า คมชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งมักจะทำควบคู่ไปกับการฉีดโบกราม
3 เรื่องเกี่ยวกับการ ฉีดโบ ในการเสริมความงาม
ในการฉีดโบ เข้าสู่กล้ามเนื้อตัวยาจะมีทั้ง ส่วนที่ถูกดูดซึมเก็บเข้าไปไว้ในเซลล์ประสาท และส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม โดยตัวยาส่วนที่ถูกดูดซึม จะเข้าไปรบกวน การทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดทำงานลดลง และถ้าหากตัวยามีความเข้มข้นสูง การออกฤทธิ์ของโบก็จะอยู่ได้นานขึ้น และส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม จะถูกขับออกจากร่างกายภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากการฉีด และไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่น ๆ ในร่างกาย
- ต้องใช้โบของแท้เท่านั้น
การใช้โบปลอม หรือโบที่ไม่ได้มาตรฐาน มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ทั้งการฉีดโบแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ กรามไม่เล็กลง ริ้วรอยไม่จางหาย ผิวหน้าไม่ตึงกระชับ หรือตัวยาเกิดการกระจายไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ ทำให้หนังตาตก ปากเบี้ยว เป็นต้น รวมไปถึงอันตรายจากการใช้ยาปลอม เพราะความไม่บริสุทธิ์ของตัวยา ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะแพ้ได้ ทั้งยังเสี่ยงต่ออาการดื้อยา ในปัจจุบันอาการดื้อโบยังไม่มีทางรักษา
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ถ้าหากจะฉีดโบ จำเป็นที่จะต้องเข้ารับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการใช้ตัวยาของแท้ ที่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และมีแพทย์ที่มีความชำนาญประจำอยู่ที่คลินิก เพื่อหลีกเลี่ยงกับการที่ต้องเจอตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ยาปลอม และหมอกระเป๋า ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และทำให้การฉีดโบ เป็นไปด้วยความปลอดภัย
- ไม่ควรฉีดโบมากเกินความจำเป็น
แม้ว่าการฉีดโบกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน จะมีความปลอดภัยสูง พบ ผลข้างเคียง ได้ค่อนข้างน้อยมาก มีการใช้ตัวยาของแท้ ที่สามารถสลายตัวออกจากร่างกายคนเรา ได้เองตามธรรมชาติ แต่ในการฉีดโบในปริมาณมาก หรือมีการฉีดที่ถี่เกินไปก็ไม่เป็นผลดีกับร่างกาย เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ หรือดื้อโบ ได้ ดังนั้นจึงต้องฉีดตามปริมาณที่เหมาะสม ฉีดตามการประเมินของแพทย์ และโดยปกติแล้ว ร่างกายของคนเราจะรับโบได้ไม่เกิน 300 ยูนิต

สำหรับขั้นตอนในการฉีดโบ จะต้องมีการประคบเย็นก่อนการฉีด เพื่อลดการไหลเวียนของเลือดรอบ ๆ บริเวณที่ทำการฉีด และก่อนการฉีดทุกครั้ง แพทย์จะต้องทำการผสมยาให้เคสเห็น เพื่อการันตีว่าทางคลินิกใช้ ยาของแท้ สั่งตรงจากบริษัท ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย.ไทย ไม่มีการใช้ยาหิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือยาปลอม ทั้งนี้ในการฉีดแพทย์จะเป็นผู้คำนวณปริมาณการใช้โบ
และมีการผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพราะโบที่มาในขวดจะเป็นผลึกสีขาว ก่อนการนำมาใช้จะต้องมีการผสมน้ำเกลือก่อนทุกครั้ง ซึ่งถ้าหากผสมในอัตราส่วนที่ไม่เหมาะสม มีการเจือจางมากเกินไป อายุของโบก็สั้นลง ทำให้ต้องฉีดบ่อย ๆ เมื่อฉีดบ่อยครั้งก็เสี่ยงต่อการดื้อโบ ที่สำคัญถ้าหากโบมีการเจือจางมาก ๆ ก็จะทำให้ตัวยากระจายไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการได้กว้างขึ้น ส่งผลต่อกล้ามเนื้อส่วนอื่น ทำให้ตาตก หรือปากเบี้ยวได้