IV Drip วิตามินผิว ที่ฟื้นบำรุงได้ลึกถึงระดับเซลล์

การฟื้นบำรุงผิวที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนมากที่สุด และเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในเวลานี้จะเป็นวิธีไหนไปไม่ได้ นอกจากการทำ IV Drip เพราะเป็นการให้สารอาหารที่จำเป็น วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ผ่านเข้าสู่ทางหลอดเลือดดำโดยตรง ทำให้ร่างกายได้รับสารเหล่านี้ในปริมาณที่มาก และร่างกายก็นำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในครั้งนี้ Ticha Clinic จะมาแนะนำวิธีการ ดริปวิตามิน ผิวอย่างเหมาะสม เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และทำให้ร่างกายได้รับวิตามินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป

จุดเด่นที่ทำให้การดริปผิวได้รับความนิยม

สิ่งที่ทำให้การดริปผิว หรือการให้วิตามินผิวขาว ได้รับความนิยมนั่นเป็นเพราะ การให้อาหารผิวทางหลอดเลือดดำ ร่างกายจะได้รับวิตามินในปริมาณที่มาก ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ถ้าหากเรารับประทานอาหารเสริม วิตามินซี 1 เม็ดที่มีปริมาณวิตามินซี 1000 มิลลิกรัม เมื่อผ่านกระบวนการย่อยอาหารแล้ว ร่างกายจะดูดซึมวิตามินซีได้เพียง 500 มิลลิกรัมเท่านั้น แต่ถ้าให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ ร่างกายจะดูดซึมได้ทั้งหมด 

และถ้าหากต้องการเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน อาจจะต้องรับประทานวิตามิน หรืออาหารเสริมตัวนั้นนานมากถึง 3 เดือน และสิ่งสำคัญก็คือการดริปผิว จะมีสารอาหารสำคัญ และวิตามินต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ จึงทำให้ไม่ต้องรับประทานวิตามินหลาย ๆ ตัวพร้อมกัน ไม่ยุ่งยาก และในการดริปผิวแต่ละครั้ง ก็ใช้เวลาไม่นาน เป็นวิธีที่ค่อนข้างสะดวก จึงทำให้การดริปผิว เป็นโปรแกรมดูแลผิว ดูแลสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกัน ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

Intravenous Therapy

Intravenous Therapy (วิตามินบำบัด) หรือมักจะคุ้นหูกับชื่อ IV Drip เป็นการให้ตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ สารสำคัญต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายทางหลอดเลือดดำ ซึ่งการดริปวิตามินนั้นจะมีส่วนประกอบของตัวยาที่แตกต่างกันไปตามสูตรต่าง ๆ ที่ในแต่ละคลินิกคิดค้นขึ้น ในครั้งนี้เราจะเน้นไปที่การดริปวิตามินเพื่อการบำรุงผิว ซึ่งจะมีส่วนประกอบหลักดังนี้ 

• วิตามินเอ (Vitamin A) : ช่วยลดการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ หรือสัญญาณแห่งวัย ได้ เพราะวิตามินเอมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ จุดด่างดำ หรือสิวก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นน้อยลงด้วย
• วิตามินบี (Vitamin B) : ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ด้วยการเข้าไปช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ทำให้สารสำคัญต่าง ๆ ถูกลำเลียงไปที่เซลล์ผิว โครงสร้างผิงแข็งแรง สุขภาพผิวดี ผิวจึงนุ่มและดูสว่างขึ้น
• วิตามินซี (Vitamin C) : วิตามินซีช่วยทำให้ผิวของเราดูอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น เพราะวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำให้ผิวที่เหี่ยวย่น และหมองคล้ำ ดูเรียบเนียนและสว่าง ผิวใสขึ้น
• วิตามินอี (Vitamin E) : วิตามินอี จะเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวแข็งแรง สามารถสร้างเกราะป้องกันให้กับผิว ผิวไม่เกิดการอักเสบ และไม่แพ้ง่าย 

ผลการเปลี่ยนแปลงหลังจากทำ IV Drip

• วิตามินและสารสำคัญต่าง ๆ เข้าไปฟื้นฟูผิวได้ลึกถึงระดับเซลล์ผิว เป็นการบำรุงอย่างล้ำลึกทำให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
• ผิวฉ่ำโกลว์ และช่วยแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำของผิว ทำให้ผิวไบรท์ กระจ่างใสขึ้น
• วิตามินเข้มข้น ถูกร่างกายดูดซึมนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่ต้องผ่นกระบวนการย่อยอาหาร เหมือนกับการรับประทานวิตามิน
• ส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ ในตัวยา นอกเหนือจากวิตามินที่เป็นส่วนประกอบหลัก จะช่วยลดการทำงานของเม็ดสีเมลานิน ทำให้จุดด่างดำจางลง ผิวสว่างขึ้น

ระยะเวลาในการดริปวิตามินผิว

เพื่อการดริปวิตามินที่ได้ประสิทธิภาพจะต้องเข้ามา ดริปอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ซึ่งจำนวนครั้งของการให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์ โดยส่วนใหญ่แล้วการดริปผิวจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน เมื่อ

• รับวิตามินอย่างต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งต้องห่างกัน 1 สัปดาห์
• หลังจากการให้วิตามินจนครบ 3-5 ครั้งแล้ว จะต้องมาเข้ารับการดริปผิวอีก โดยจะฉีด 2-3 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง
• ถ้าหากว่าสภาพผิวดีขึ้น มีสุขภาพผิวที่ดี และอยากให้ผลลัพธ์อยู่อย่างต่อเนื่อง จะต้องมีการดริปผิวต่อหลังจากนั้นเดือนละ 1 ครั้ง

สำหรับการให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ นั้นสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเข้ารับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ที่มีการใช้ตัวยาที่ผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการรับวิตามินเกินขนาด มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ เพราะอาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมาได้

และถ้าหากหลังจากการดริปผิว แล้วต้องการจะหยุดการรับวิตามิน ก็สามารถทำได้ โดยการหยุดจะไม่ได้ส่งผลเสียอะไรกับร่างกาย แต่จะต้องมีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ผิวกลับมาคล้ำเสีย ทั้งการทาครีมบำรุงผิว การใช้สกินแคร์ รวมไปถึงการทาครีมกันแดด เพระาแสงแดดมีรังสียูวี ที่ทำร้ายผิวลงไปในชั้นลึก ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ก่อนเข้ารับการทำ IV Drip ควรมีการเตรียมตัว โดยการเข้ารับการประเมินกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีการคำนวณปริมาณความเข้มข้นของวิตามิน และการเลือกสูตรวิตามินให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อผลลัพธ์ที่คุณพึงพอใจ