
Rejuran X Chanels ผสานการบูสผิวฉ่ำแบบดับเบิ้ล
กรกฎาคม 27, 2023
Barbie Lips ฟิลเลอร์ปาก ทรงยอดฮิตสไตล์สายฝอ
สิงหาคม 2, 2023คุณกำลังประสบกับปัญหา ขอบตาดำอยู่หรือเปล่า ? การมีขอบตาดำ ผิวบริเวณใต้ตา หมองคล้ำ ไม่ว่าจะทาอายครีม มาสก์บำรุงผิวใต้ตาแล้ว ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า คุณมีอาการ ใต้ตาคล้ำ เรื้อรัง ที่อาจจะมี สาเหตุมาจากกรรมพันธ์ หรือโครงสร้างผิว ที่เปลี่ยนแปลง เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ซึ่งอาการขอบตาดำเรื้อรังนี้ จะต้องนำเอาหัตถการทางการแพทย์ เช่น การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane เพื่อการรักษาที่เห็นผล อย่างชัดเจนในระยะเวลาอันรวดเร็ว
สาเหตุของปัญหาใต้ตา
- พันธุกรรม : ถ้าหากคนในครอบครัว เช่น พ่อแม่ พี่น้อง ที่มีใต้ตาหมองคล้ำ ก็อาจจะส่งผลให้เรามีสีผิวใต้ตา ที่มีสีเข้มมากกว่าปกติได้ เรียกว่าเป็นการถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรม เช่น ชาวอาหรับ ชาวอินเดีย ก็จะมีลักษณะผิวใต้ตาคล้ำได้มากกว่า
- อายุ : โดยปกติแล้ว เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ไขมันที่อยู่ระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อ รอบ ๆ ดวงตา ก็จะมีการฝ่อลง ทั้งนี้รวมไปถึงไขมันในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายด้วย เมื่อไขมันรอบดวงตา เริ่มฝ่อลง ผิวบริเวณนั้นก็จะมีสีคล้ำ และอายุที่มากขึ้นก็จะ เกิดการยุบตัวของกระดูก ร่วมด้วย เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดถุงใต้ตา เกิดร่องตาลึกด้วย
- ถุงใต้ตา : เป็นถุงไขมันที่บริเวณใต้ตา มีขนาดใหญ่ทำให้เกิดเป็นร่องใต้ตา และมีเส้นเลือดมาเลี้ยงที่ บริเวณนี้เยอะมากเกินไป จึงเห็นเป็นเงาของเส้นเลือด เลยดูเหมือนว่ามีผิวที่ใต้ตาสีคล้ำ

- โรคภูมิแพ้ : สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ เส้นเลือดดำบริเวณรอบ ๆ ดวงตา จะขายใหญ่กว่าปกติ และโรคภูมิแพ้ยังทำให้เกิด อาการระคายเคือง เกิดอาการคัน มีการขยี้บ่อย ๆ ครั้งจะทำให้เกิดการกระตุ้น การสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้นในบริเวณนั้น ก็ส่งผลทำให้ผิวบริเวณรอบ ๆ ดวงตามีสีเข้ม ใต้ตาดูคล้ำ
- แสงแดด : รังสี UV ที่อยู่ในแสงแดดจะเป็นตัวกระตุ้น ทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีที่มากขึ้น ผิวบริเวณใต้ตาจึงมีสีเข้ม ดูคล้ำอย่างเห็นได้ชัด และยิ่งผิวบริเวณใต้ตามีความบอบบาง เมื่อโดนแสงแดดก็จะยิ่งทำให้ผิวบางลงไปอีก เห็นเงาของเส้นเลือดใต้ผิวได้ชัดขึ้น ใต้ตาจึงดูหมองคล้ำ
- พักผ่อนน้อย : การที่พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย อดนอนอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงอาการเครียด จะทำให้ร่างกายเสียสมดุล ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ไม่ดี โดยเฉพาะระบบไหลเวียนเลือด ก็ส่งผลทำให้ใต้ตาเกิดรอยคล้ำได้
การแบ่งโครงสร้างของใต้ตา
- ใต้ตาชั้นลึก : ในส่วนของชั้นลึกจะเป็นกระดูกเบ้าตา กระดูกบริเวณหน้าแก้ม เส้นเอ็นพยุงผิว และชั้นไขมันชั้นลึก การฉีดฟิลเลอร์ลงในที่ใต้ตาชั้นลึก จะเป็นการฉีดเพื่อพยุงโครงสร้างของเส้นเอ็นให้กระชับขึ้น เสริมแนวกระดูกที่กร่อนไปให้เต็มและตื้นขึ้น ถุงใต้ตาจึงกระชับขึ้น เบ้าตาที่ลึกก็ดูตื้นขึ้น โดยการเติมใต้ตาในชั้นนี้จะต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ที่โดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับ
- ใต้ตาชั้นตื้น : ใต้ตาชั้นตื้นจะเป็นชั้นไขมันชั้นบน และชั้นผิวหนัง การฉีดใต้ตาในชั้นตื้นนี้ จะเป็นการเก็ยรายละเอียดของบริเวณริ้วรอย ร่องใต้ตาให้ดูเรียบเนียน ซึ่งในชั้นตื้นจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่มากนัก เพราะเนื้อฟิลเลอร์จะอยู่บนกล้ามเนื้อ ถ้าหากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป เวลายิ้ม หรือเวลาแสดงสีหน้าจะมองเห็นฟิลเลอร์เป็นก้อนนูนขึ้นมา ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการเติมใต้ตาในชั้นตื้นจะต้อง เลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เกลี่ยได้ง่ายและกลืนไปกับผิวได้เป็นอย่างดี
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา กลายมาเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหารอบดวงตาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มได้ในทั้งใต้ตาชั้นลึกที่เป็นโครงสร้างพยุงผิว และเติมเต็มใต้ตาชั้นตื้น เพื่อความเรียบเนียนของผิวที่ใต้ตา มีกระบวนการขั้นตอนการทำที่ง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ก่อให้เกิดแผลเหมือนกับการรักษาโดยวิธีการผ่าตัด ซึ่งในครั้งนี้เราได้รวบรวมเอา ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane รุ่นที่เหมาะกับการเติมเต็มเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ซึ่งจะมีด้วยกัน 5 รุ่น ดังนี้
- Restylane Lyft : เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง เนื้อไม่ฟู เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Defyne : เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อแข็ง เหมาะสำหรับฉีดเพื่อทดแทนกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก ฉีดใต้ตาชั้นลึก สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Vital Light : เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะกับการฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว เหมาะกับการฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดใต้ตาชั้นตื้น สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane Classic : ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะสำหรับเติมในใต้ตาชั้นลึก สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Vital : เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด ทำให้เกลี่ยได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับนำมาฉีดใต้ตาในชั้นตื้น ฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะต้องเลือกเข้าบริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ไม่เช่นนั้นแล้วหากฉีดผิดจุด จะทำให้ฟิลเลอร์ไปอุดตันในเส้นเลือดใต้ตา อาจส่งผลทำให้ตาบอดได้ ก่อนการฉีดแพทย์จะประเมิณและคำนวณปริมาณฟิลเลอร์ ที่ใช้ฉีดใต้ตาอย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแล้วในการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณใต้ตาอาจจะใช้ปริมาณ 1-2 cc