การร้อยไหม เป็นการเสริมความงาม ที่ใช้เพื่อการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ ที่เริ่มมีการหย่อนคล้อย การใช้ไหมละลายเส้นเล็ก ๆ ที่ทำขึ้นมาจากวัสดุสังเคราะห์ที่สามารถย่อยสลายได้ ไม่เกิดสิ่งตกค้างในร่างกาย สอดเข้าไปในชั้นผิว หนามเล็ก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เส้นไหมจะเกี่ยวยกผิวขึ้น และเมื่อเส้นไหมเข้าที่แล้วก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว จึงทำให้การยกผิวหน้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ผลลัพธ์ของการ ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม ? นั้นขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นไหม ซึ่งในบทความนี้เราได้รวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับเส้นไหม เพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำโปรแกรมร้อยไหม

วัสดุที่ใช้มาทำเส้นไหมสำหรับการร้อยไหม

• ไหม PDO หรือ Polydioxanone (โพลีไดออกซาโนน) จุดเด่นของไหมชนิดนี้ คือ มีความยืดหยุ่นสูง และเป็นที่นิยมมากที่สุด
• ไหม PLLA หรือ Polylactate (โพลีแลคเตต) จุดเด่นของไหมชนิดนี้ คือ มีความแข็ง และมีข้อเสียคือมีความเปราะ หักง่าย
• ไหม PCL หรือ Polycaprolactone (พอลิคาโพรแลกโตน) จุดเด่นของไหมชนิดนี้ คือ มีความยืดหยุ่น มีเส้นใหญ่ที่สุด ไหมก้างปลาเส้นใหญ่ เงี่ยงใหญ่ ละลายช้าและอยู่ได้นานขึ้น ในปัจจุบันไหม PCL มีส่วนผสมของPLLA อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงทำให้ไหม PCL เป็นไหมที่ดีที่สุดในตอนนี้

ทำความรู้จักเกี่ยวกับลักษณะของไหมแต่ละชนิด

1. ไหมกรวย ( Silhouette Soft )

เป็นไหมที่มีปม ลักษณะคล้ายโคนหรือกรวยติดกันเป็นระยะ ๆ ใช้ในการยกกระชับใบหน้า ระยะเวลาในการอยู่ตัวของไหมกรวยจะอยู่ได้ถึง 8 – 10 เดือน แต่มีข้อเสียคือ ราคาสูงและมีโอกาสบวมช้ำสูงมากเมื่อนำมาเทียบกับไหมชนิดอื่น ๆ แล้ว

 2. ไหมเงี่ยง (Barbed threads)

ไหมเงี่ยง  (Barbed threads / Cog theads) หรือที่นิยมเรียกกันว่าไหมก้างปลา จะช่วยยกกระชับผิว นำมาร้อยเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น แก้ไขผิวหย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเส้นไหมที่ใช้จะแบ่งออกเป็นหลายชนิด ระยะเวลาอยู่ได้ 4 – 12 เดือนขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ เช่น PDO PLLA และ PCL

  3. ไหมเรียบ (Mono threads) 

เป็นไหมละลายชนิดแรกที่นำมาใช้ในวงการ คลินิกเสริมความงาม เพื่อสร้างคอลลาเจน มาเติมเต็มในส่วนของร่องลึก ริ้วรอย และจุดด่างดำต่าง ๆ คล้าย ๆ กับการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ แต่ในปัจจุบันไม่นิยมใช้กัน เพราะ ต้องใช้ไหมจำนวนมากเพื่อนำมาร้อยซ้อนกัน มีโอกาสทำให้เกิดพังผืดได้ โดยไหมเรียบจะมีระยะเวลาอยู่ได้ 8 เดือน

4.ไหมเกลียว (Screw Threads/Tornado Threads)

ไหมเกลียว เป็นการใช้ไหมเรียบ 1-2 เส้น พันกันเป็นเกลียวให้แบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความ แข็งแรงให้กับเส้นไหมก่อนสอดเข้าไปในใต้ชั้นผิว ไหมเกลียวจะช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กับมาเรียบตึง เติมเต็มร่องลึก โดยไหมเกลียวจะมีระยะเวลาอยู่ได้ 8 เดือน เช่นเดียวกับไหมเรียบ

  5. ไหมมิ้นต์ (Mint Lift)

ไหมมิ้นต์ เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงรอบทิศทาง จะช่วยให้การยึดเกาะกับผิวนั้นดีขึ้น กรรมวิธีการผลิตของไหมมิ้นต์ เป็นการนำส่วนเงี่ยงแยกกับส่วนที่เป็นไหม แล้วนำมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน สามารถช่วยให้ยกกระชับใบหน้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไหมมิ้นต์จะมีระยะเวลาอยู่ได้ 6 – 8 เดือน

6.ไหมตาข่าย (Tesslift Soft)

เป็นไหมเงี่ยงรอบทิศทางที่คลุมไปด้วยเส้นใย ของโครงตาข่ายอยู่รอบ ๆ เส้นไหม เพื่อเพิ่มความ แข็งแรงของเส้นไหม ให้ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า และยังสามารถช่วย กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีอีกด้วย โดยไหมตาข่าย จะมีระยะเวลาอยู่ได้ 6 – 8 เดือน

การทำโปรแกรมร้อยไหมดึงหน้ากี่วันถึงจะเห็นผล

สำหรับข้อสงสัยที่ว่า การทำโปรแกรมร้อยไหม กี่วันถึงจะเห็นผลลัพธ์ และต้องรอให้ไหมเข้าที่นานหรือไม่ ? ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว การทำโปรแกรมการร้อยไหม จะเห็นผลลัพธ์ในทันทีหลังทำ แต่ผลลัพธ์นั้นจะชัดเจนที่สุดภายใน 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน โดยในช่วงแรก ประมาณ 3-4 วัน หลังจากคนไข้ทำโปรแกรมร้อยไหม อาจจะมีอาการบวมเล็กน้อย แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป สาเหตุที่มีการเกิดอาการบวมขึ้น เพราะเนื่องจากมีการใช้เข็มร้อยไหมลงไปบนใบหน้า 

อาการบวมเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเอง แต่ถ้าหากคนไข้มีอาการบวมแดงผิดปกติ หรือมีอาการข้างเคียงผิดปกติ หลังการทำโปรแกรมร้อยไหม ควรรีบเข้าพบแพทย์ผู้ชำนาญการทันที หากไม่รีบเข้าพบแพทย์อาจจะมีผลเสียและเกิดอัตรายได้

การทำโปรแกรมร้อยไหมผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน

ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม ? ซึ่งผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรมร้อยไหมของคนไข้ แต่ละบุคคลจะมีระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับว่า ไหมแต่ละชนิดอยู่ได้นานแค่ไหน และหลังการทำโปรแกรมร้อยไหม มีการดูแลตนเองอย่างไร ดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ชำนาญการ อย่างสม่ำเสมอหรือไม่ หลังการทำโปรแกรมร้อยไหม เสร็จ จะสังเกตุเห็นได้ว่า ใบหน้าของคนไข้นั้นดูยกกระชับขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งนั้นยังไม่ใช่ผลลัพธ์ที่แท้จริงในการทำโปรแกรมร้อยไหม

เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานขึ้นผิวจะมี ความหย่อนคล้อยลงมาเล็กน้อย และจะมีการสร้างคอลลาเจน ตามแนวไหม จากนั้นผิวจะกระชับขึ้นเรื่อย ๆ โดยถ้าหากอยากเห็นผลลัพธ์ หลังการทำโปรแกรมร้อยไหมดึงหน้าที่ยาวนานมากขึ้น การดูแลตัวเองหลังทำ เป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นมาก ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี คงอยู่ได้นยาวนานขึ้น หากไม่ปฏิตามคำแนะนำ สำหรับการดูแลตนเองหลังการทำโปรแกรมร้อยไหม อาจจะทำให้ประสิทธิ์ภาพลดลง ใบหน้าดูไม่กระชับ ใบหน้าดูหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ ไม่มีคอลลาเจนไปเติมเต็มในส่วนของร่องลึก อาจจะทำให้เกิดพังผืดหรือผลข้างเคียงในระยะยาว