เทรนด์ผิวสวยสุขภาพดี เป็นมาตรฐานความงามของสาว ๆ ในปี 2023 นี้ ซึ่งทำให้มีเครื่องสำอางออกมามากมาย รวมไปจนถึงผลิตภัณฑ์ สำหรับการใช้เสริมความงามเองก็มีให้เลือกด้วยกันหลายตัว แต่มีสกินบูสเตอร์ตัวดังจากเกาหลี ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือ Rejuran Skin Booster โปรแกรมที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างเหมาะสม ทั้งเรื่องริ้วรอย ความหมองคล้ำของผิว หลุมสิว รอยแผลที่อยู่บนผิวหน้า เพราะตัวยาจะเข้าไปฟื้นบำรุงอย่างล้ำลึกถึงระดับเซลล์

Rejuran นวัตกรรมใหม่ในการดูแลและฟื้นฟูผิว

นวัตกรรมใหม่ที่สกัดเอา PN (Polynucleotide) หรือโพลีนิวคลีโอไทด์ มาจาก DNA ของปลาแซลมอน ตัว PN เป็นสารที่จะช่วยเข้ามาฟื้นฟูผิว ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมทั้งช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้น และยังช่วยปรับโทนสีผิว ให้ดูสว่างกระจ่างใส ผิวฉ่ำโกลว์ แบบสุขภาพดี

การฉีด Rejuran Skin Booster จะช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างไรบ้าง ?

• ทำให้ผิวสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ : การฉีด รีจูรัน จะทำให้เกิดการกระตุ้นการฟื้นฟูผิว ช่วยแก้ไขปัญหาผิว ทั้งผิวหน้าแห้งกร้าน ผิวหน้ามีรูขุมขนกว้าง รอยดำรอยแดงบนผิวหน้า รวมไปถึงปัญหาฝ้า และกระ 
• ทำให้ผิวเต่งตึง : การฉีดรีจูรันจะเข้าซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ฟื้นฟูผิวจากภายใน ช่วยไปจัดการกับปัญหาริ้วรอย บนใบหน้า ทำให้ริ้วรอยเหล่านั้นจางลง ร่องลึกก็ดูตื้นขึ้น ผลที่ได้จึงมีผิวหน้าที่กระชับ เต่งตึงแบบธรรมชาติ ใบหน้าดูสดชื่น แถมยังช่วยให้การแต่งหน้าทำได้ง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น
• รักษาหลุมสิว : ส่วนประกอบสำคัญอย่าง PN ที่อยู่ใน Rejaran จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์ เพื่อสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ในชั้นผิวที่เป็นชั้นหนังแท้ และ PN ยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ชั้นผิวจะหนาขึ้น เติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น
• แก้ไปปัญหาความหมองคล้ำของผิว : ปัญหาคงวามหมองคล้ำของผิว หรือการมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ที่เกิดจากการทำงานของเม็ดสีเมลานิน สามารถฉีดรีจูรัน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้ รีจูรันจะปรับสีผิวให้สว่างขึ้น ทำให้ผิวทีความกระจ่างใสมากขึ้น
• ลดการอักเสบของผิว : สาร PN ที่อยู่ในรีจูรัน จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพิ่มเกราะป้องกันของผิว ทำให้ผิวแข็งแรง จึงลดการอักเสบของผิว ทำให้ไม่เกิดอาการแพ้ง่าย ผื่นคัน ผื่นแดง

การฉีดรีจูรันเหมาะการแก้ไขปัญหาผิวดังต่อไปนี้

• ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
• ผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ผิวหน้ามีความหมองคล้ำ
• รูขุมขนกว้าง
• ผิวมีฝ้า กระ และรอยดำ รอยแดง
• ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับ
• ริ้วรอย ร่องลึกบนผิวหน้า
• หลุมสิว รอยแผลจากสิว

ขั้นตอนการฉีดรีจูรัน

1. อันดับแรกจะต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดก่อน
2. จากนั้นแพทย์จึงจะทำการแปะยาชาให้ ซึ่งต้องแปะยาชาเฉพาะที่ประมาณ 30-60 นาที ก่อนการฉีด เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
3. การฉีดรีจูรัน แพทย์จะทำการฉีดลงไปในชั้นผิวหนังแท้ด้วยเทคนิค การฉีดแบบ ID (Intradermal Injection) โดยในการฉีดให้ทั่วทั้งใบหน้าจะใช้ตัวยาปริมาณ 2 ซีซี ต่อการทำหนึ่งครั้ง
4. ในขั้นตอนการฉีดรีจูรันเข้าสูชั้นผิวจะใช้เลาประมาณ 15-30 นาที

ในขั้นตอนการรักษาผิวหน้าด้ยรีจูรัน จะไม่ใช่ขั้นตอนที่ยุ่งยาก และใช้เวลาในการฉีดไม่นาน ซึ่งหลังจากการฉีดรีจูรัน ด้วยเทคนิค ID จะทำให้ผิวหลังจากที่ฉีด มีการบวมแดง เป็นจุดเล็ก ๆ ทั้วทั้งใบหน้า ซึ่งรอยแดงนี้จะหายไปได้เองหลังจากที่ฉีดไปแล้วประมาณ 2-3 วัน และจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ และถ้าหากต้องการให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะต้องฉีดรีจูรันอย่างน้อย  3 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะต้องห่างกัน 3-4 สัปดาห์ และหลังจากนั้นอาจจะฉีด 6 เดือนครั้ง เพื่อให้มีผิวสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน

การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรก

หลังจากที่ฉีดรีจูรัน แล้วจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้จั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ซึ่งหลังจากฉีดครั้งแรกประมาณ 3-5 วัน จะเริ่มรู้สึกว่า ผิวสุขภาพดีขึ้น ผิวมีความฉ่ำวาว ดูชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ และผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้น โดยผลลัพธ์ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของแต่ละบุคคลด้วย และขึ้นอยู่กัยการดูแลตัวเองหลังจากฉีด Rejuran ไปแล้วด้วย

การฉีด Rejuran เพียง 1 ครั้ง จะสามารถให้ผลต่อเนื่องประมาณ 1-2 เดือน แต่สำหรับผู้ที่ฉีดรีจูรันครบ 3 ครั้ง โดยที่แต่ละครั้วห่างกัน 3-4 สัปดาห์ จะทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวอย่างชัดเจน และผลลัพธ์ยังอยู่ได้ต่อเนื่องยาวนานมากถึง 6-8 เดือน ซึ่งจำนวนครั้งในการฉีดอาจจะมากกว่า 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิว ถ้าหากเป็นคนที่สุขภาพผิวดีอยู่แล้ว มีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี การฉีด 3 ครั้งก็เพียงพอและเหมาะสมแล้ว Rejuran อาจเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีใหม่ในการดูแลผิว ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายและวิธีการที่ไม่ซับซ้อน ไม่แปลกที่ Rejuran ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก