
เทคนิคการผ่าตัด ดึงหน้า 3D Face Lock ที่ Ticha Clinic
มิถุนายน 7, 2023
ทำตาสองชั้น ปรับรูปตาให้กลมโต ชั้นตาสวย ชัด มีเสน่ห์
มิถุนายน 11, 2023การปรับรูปหน้า ด้วยการฉีดสารเติมเต็ม เป็นการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน การฉีดสารเติมเต็มจะสามารถแก้ไขปัญหาผิว ปัญหารูปหน้าไม่ได้สัดส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ซึ่งสารเติมเต็มที่ถูกใช้ในปัจจุบันมีด้วยกันหลายแบบ ซึ่งในบทความนี้เราจะพูดถึง การ ฉีดซิลิโคนเหลว หรือฟิลเลอร์แบบถาวร ที่เป็นสารเติมเต็มที่มควมปลอดภัยน้อย มีผลข้างเคียงอย่างมากในระยะยาว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะ ฉีดฟิลเลอร์ นั่นเอง
ซิลิโคนเหลว หรือฟิลเลอร์แบบถาวร คืออะไร ?
ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) เป็นสารเติมเต็มชนิดที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะอยู่แบบถาวร ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ ทำให้เกิดการตกค้างในชั้นผิว จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว ทั้งฟิลเลอร์ไหลไปยังบริเวณอื่น ทำให้ใบหน้าย้อยผิดรูป ฟิลเลอร์ทำให้เกิดพังผืดในบริเวณที่ฉีด ดังนั้นฟิลเลอร์แบบถาวรจึงไม่ผ่าน อย.ไทย ซึ่งสารเติมเต็มที่อยู่ในกลุ่มของฟิลเลอร์แบบถาวรจะได้แก่ ซิลิโคนเหลว พาราฟิน และสารพลาสติกสังเคราะห์ PMMA (Polymethyl-methacrylate microspheres)
ความเสี่ยงในระยะยาวของ ฟิลเลอร์แบบถาวร
ความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ถาวร หรือ ฉีดซิลิโคนเหลว นั้นมีความเสี่ยงที่สูงมากเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์แบบชั่วคราว หรือฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยารลูโรนิค (HA) ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร สามารถพบอาการแทรกซ้อนได้ ดังนี้
- การติดเชื้อ : เนื่องจากฟิลเลอร์ถาวร ไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ เมื่ออยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน จุดนี้เองจึงเป็นสิ่งที่ เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงขึ้น เพราะในบริเวณ ที่ฉีดฟิลเลอร์นั้น อาจจะมีแบคทีเรียที่อาศัยอยู่โดยรอบ โดยเฉพาะสิ่งแปลกปลอม ที่อยู่ในร่างกายเป็นเวลานานอย่าง ซิลิโคนเหลว
- การย้ายตำแหน่ง : เมื่อเวลาผ่านไป ฟิลเลอร์ถาวรอาจจะมีการเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งที่ฉีด ไปยังตำแหน่งอื่น บริเวณอื่น ทำให้ใบหน้าเบี้ยว ดูผิดธรรมชาติไป ซึ่งการย้ายตำแหน่งของฟิลเลอร์ถาวร อาจจะมีสาเหตุมาจาก การหดตัวของกล้ามเนื้อใบหน้า
- เกิดเป็นก้อนแข็ง : ก้อนเนื้อเล็ก ๆ ที่เกิดจากการอักเสบ เรื้อรัง หรือ Granuloma การเกิดเป็นก้อนแข็ง ๆ หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์แบบถาวรไปแล้วประมาณ 3-5 ปี
- อาการแพ้ : อาการแพ้ที่มักจะพบ เมื่อฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร คือ หลังจากฉีดจะมีอาการ บวม เป็นรอยแดง มีอาการคันร่วมด้วย เนื่องจากร่างกายทำปฏิกิริยาต่อฟิลเลอร์ หรือกลไกต่อต้านสิ่งแปลกปลอม
- ใบหน้าผิดรูป : ใบหน้าผิดรูป เกิดจากการที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อบางลง ผิวฝ่อลง แต่ฟิลเลอร์แบบถาวรไม่ได้ถูกสลายไป ยังคงรูปร่างเป็นก้อนอยู่ ทำให้สังเกตเห็นก้อนนูน ๆ ได้ชัดขึ้น ใบหน้าดูมีสัดส่วนที่เป็นลักษณะแปลก ๆ ไม่เพียงแค่ใบหน้าเท่านั้น ถ้าหากฉีดลงในส่วนอื่นของร่างกาย ก็จะเกิดเป้นก้อนในลักษณะนี้ได้เช่นกัน
ทำอย่างไร เมื่อฉีดฟิลเลอร์แบบถาวรไปแล้ว ?
การเสริมความงามในยุคก่อน จะนิยมฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร การฉีดซิลิโคนเหลวไม่เพียงแต่ใช้ในการฉีด เพื่อปรับรูปหน้าเท่านั้น แต่ยังนิยมฉีดเพิ่มสัดส่วนของร่างกายด้วย เช่น การฉีดสะโพก เพราะฟิลเลอร์แบบถาวรนั้น อยู่ได้นาน และมีราคาที่ไม่แพง แต่เมื่อเวลาผ่านไป จะเริ่มสังเกตเห็นถึงอาการข้างเคียง ที่ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีด มีรูปร่างที่ผิดแปลกไปจากเดิม ซึ่งในการแก้ไขนั้นจะไม่มียาที่ฉีดสลาย ได้เหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ที่เป็น กรดไฮยาลูโรนิค แต่การแก้ไขฟิลเลอร์แบบถาวร จะต้องทำการผ่าตัด หรือขูดออกเท่านั้น

การเลือกฉีด ฟิลเลอร์ ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย
การฉีดฟิลเลอร์ ที่ปลอดภัยที่สุด เกิดผลข้างเคียงได้น้อยที่สุดและไม่มีสิ่งตกค้างในร่างกาย จะต้องเป็นฟิลเลอร์แบบชั่วคราว หรือเป็นกรดไฮยาลูโรนิค ซึ่งฟิลเลอร์ประเภทนี้ ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. ไทย ฟิลเลอร์ที่ใช้ในท้องตลาดได้อย่างปลอดภัย จะมีด้วยกันหลายแบรนด์ เช่น Restylane, Neuramis, E.P.T.Q. และ Yvoire ทั้งนี้ถ้าหากฉีดไปแล้วไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ สามารถฉีดสลายได้เลย รวมไปถึงกรณีที่ฉีดไปแล้ว ฟิลเลอร์เริ่มสลายตัว ก็สามารถฉีดซ้ำบริเวณเดิมได้ โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร จะช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้าได้เหมือนกับฟิลเลอร์แบบชั่วคราว และยังอยู่ได้นานมากกว่าหลายเท่า แต่ก่อนตัดสินใจฉีด จะต้องพิจารณาถึงผลเสีย ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวด้วยทั้ง อาการระคายเคือง การผิดรูปของผิวในบริเวณที่ฉีด ไปจนกระทั่งการติดเชื้อเพราะการฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน และมีความปลอดภัยต่ำมาก ไม่ได้รับการรับรองจากกองค์การอาหารและยา (อย.)

ที่สำคัญการแก้ไข ด้วยการผ่าตัด หรือการขูดฟิลเลอร์แบบถาวร นั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และผลลัพธ์จากการแก้ไขนั้น ไม่สามารถนำเอาฟิลเลอร์ถาวรออกได้หมด เอาออกได้สูงสุดประมาณ 60-70 % เพื่อปรับให้ผิวบริเวณที่ฉีดนั้นกลับมาให้ใกล้เคียงแบบเดิมได้มากที่สุดนั่นเอง เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายในการฉีดและการแก้ไขแล้ว อาจจะไม่คุ้มค่า ทั้งยังสูญเสียความมั่นใจจากผลข้างเคียงอีกด้วย ดังนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ คือ ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว หรือแบบ HA เพราะเป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูงมาก ไม่ติดค้างในร่างกายและสลายตัวได้เอง 100 % จึงไม่ก่อให้เกิดอันตราย และภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว