
เสริมคาง ที่ไหน ? ให้หน้าเรียวสวยเป็นธรรมชาติ
พฤษภาคม 28, 2023
PRP ฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้ผิวหน้ากระชับอ่อนกว่าวัย
มิถุนายน 3, 2023หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับการใช้โบเพื่อปรับรูปหน้า โดยการฉีดเข้าไปที่กราม เพ่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อกรามทำให้กล้ามเนื้อนั้นมีขนาดเล็กลง ใบหน้าก็ดูเรียวขึ้นด้วย แต่โบสามารถใช้ประโยชน์ในด้านการเสริมความงามได้มากกว่านั้น โดยเฉพาะการฉีดโบ เพื่อลดเลือนริ้วรอย ในบทความนี้จะมาอธิบายเกี่ยวกับ การฉีด โบริ้วรอย ว่าจะใช้ที่จุดใดได้บ้าง แต่ละจุดต้องฉีดโบกี่ยูนิต และเห็นผลได้ภายในเวลากี่วัน ? ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยตีนกา รอยย่นบนใบหน้า
การใช้โบในการลดเลือนริ้วรอย
การฉีดโบริ้วรอย จะเป็นการใช้ตัวยาชนิดเดียวกับที่ใช้ฉีดโบกราม ที่มีคุณสมบัติต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดลงไปบนใบหน้าแล้ว กล้ามเนื้อจะคลายตัว ทำให้ริ้วรอย รอยย่น รอยที่หางตา หรือรอยตีนกา นั้นจางลงผิวบริเวณนั้นมีความเรียบเนียนขึ้น และถึงแม้ว่าจะมีการแสดงสีหน้า หรือขยับใบหน้า ก็จะไม่สังเกตเห็นริ้วรอย รอยย่น รอยพับบนใบหน้า การใช้โบเพื่อลดเลือนริ้วรอยจึงเป็นที่หัตถการที่เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาสัญญาณแห่งวัยได้เป็นอย่างดี

ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า
ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้า เป็นปัญหาผิวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เมื่อมีอายุมากขึ้นเราจึงเรียกริ้วรอย เหล่านี้ว่า สัญญาณแห่งวัย ซึ่งจะพบได้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป จะเริ่มสังเกตเห็นเส้น รอยพับบนใบหน้า โดยเฉพาะส่วนที่มีการขยับ หรือส่วนที่แสดงสีหน้าบ่อย ๆ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนลดลง โครงสร้างผิวอ่อนแอลง ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้าน ทำให้รอยต่าง ๆ ทั้งหมดนี้จะชัดเจนขึ้น และจะมีรอยที่ลึกขึ้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาผิวมีดังนี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น : อายุที่มากขึ้น ร่างกายก็สร้างคอลลาเจนได้น้อยลง ส่งผลต่อความชุ่มชื้นของผิว ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวจึงขาดความกระชับ และเริ่มหย่อนคล้อยลง มีริ้วรอยเล็ก ๆ เกิดขึ้นบนใบหน้า
- การแสดงสีหน้า ท่าทาง : การแสดงสีหน้าบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ อย่างการขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว การยิ้ม ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน ก็เป็นอีกต้นเหตุหนึ่งของการเกิดรอยย่นบนใบหน้า
- แสงแดด : แสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิว โดยแสงแดดจะทำลายคอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิว ผิวหนังจึงขาดความยืดหยุ่น ส่งผลเกิดเป็นริ้วรอยขึ้นได้ ยิ่งถ้าหากไม่มีการทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว และเจอกับแสงแดดเป็นประจำ ก็จะยิ่งทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยได้ ริ้วรอยเหล่านั้นสามารถพัฒนามาเป็นร่องลึกได้อีกด้วย
5 จุดบนใบหน้า ที่ฉีดโบลดเลือนริ้วรอย
การฉีดโบเพื่อลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน เมื่อใช้โบจัดการกับริ้วรอยตื้น ๆ หรือรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ท่าทาง ต่าง ๆ เช่น การขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว การยิ้ม หัวเราะ เป็นต้น แต่จะไม่เห็นผลกับริ้วรอยที่เป็นร่องลึก หรือปัญหาผิวที่เกิดจากการที่โครงสร้างใบหน้าทรุดตัวลง ทั้งชั้นกระดูก เนื้อเยื่อ และไขมัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะต้องแก้ไข ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อเข้าไปทดแทนชั้นผิว คืน Volume ให้กับผิว ดังนั้น โบริ้วรอย จะฉีดบนใบหน้าทั้ง 5 จุดดังนี้
- ระหว่างคิ้ว : รอยย่นที่บริเวณหัวคิ้วจะเกิดขึ้นได้ค่อนข้างง่าย เป็นจุดแรกที่จะสังเกตเห็นบนใบหน้า การฉีดโบที่บริเวณระหว่างคิ้วจะทำให้ ผิวบริเวณนั้นเรียบเนียนขึ้น
- หน้าผาก : รอยพับ รอยย่น ที่มองเห็นเป็นเส้น ๆ บนหน้าผาก ในเวลาที่เลิกคิ้ว เวลาที่ยิ้ม หัวเราะ ยิ่งอายุมากขึ้น เส้นบนหน้าผากก็จะยิ่งชัดขึ้น เป็นร่องลึกขึ้น
- หางตา : รอยที่หางตา หรือที่มักเรียกกันว่า รอยตีนกา มักจะเกิดจากการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ ยิ่งในเคสที่มีอายุมาก ผิวขาดความยืดหยุ่น ยิ่งเห็นรอยที่หางตาได้ชัดเจนมากขึ้น
- บริเวณใต้ตา : ริ้วรอยรอบ ๆ ดวงตา จะเห็นเป็นเส้นเล็ก ๆ รอบดวงตา ริ้วรอยเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะมีการขยับอยู่ตลอดเวลา ข้อควรระวังสำหรับการฉีดโบริ้วรอย รอบ ๆ ดวงตา คือไม่ควรฉีดเยอะเกินไป เพราะจะทำให้ดูเหมือนเหลือกตา ตาแข็ง
- ร่องแก้ม : ร่องแก้ม หรือรอยพับ รอยย่นที่แก้ม เกิดจากการหย่อนคล้อยของผิว การฉีดโบที่ร่องแก้มจะแก้ปัญหาได้เพียงแค่ร่องตื้น ๆ เท่านั้น ถ้าหากเกิดเป็นร่องลึก จะต้องฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมร่องลึก ถึงจะแก้ไขได้อย่างตรงจุด

ข้อดีของการฉีดโบลดริ้วรอย
ทำให้ริ้วรอยบนใบหน้า ดูจางลง เมื่อริ้วรอยหายไป ผิวหน้ากระชับขึ้น ก็จะทำให้ภาพรวมใบหน้าดูสดใส หน้าเด็กลง และการฉีดโบ ภายใต้การดูแลของแพทย์ มีการกลับมาฉีดซ้ำตามนัด หรือภายใน 4-6 เดือน จะทำให้สามารถป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ป้องกันไม่ให้เกิดร่องลึก บนผิวหน้า เพราะการฉีดโบจะส่งผลทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดน้อยลง
ข้อควรระวังสำหรับการฉีดโบริ้วรอย จะไม่สามารถให้ผลลัพธ์ได้อย่างถาวร แต่จะคงอยู่ได้ในระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และแบรนด์ของโบด้วย และสิ่งสำคัญคือ ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้เกี่ยวกับ กายวิภาค ของใบหน้า เช่น ไม่ควรฉีดโบบริเวณมุมปาก เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอาการปากเบี้ยวได้ เป็นต้น