การปรับรูปหน้าให้เรียว เป็นการแก้ไขปัญหา โครงสร้างใบหน้าเดิม ที่มีลักษณะ หน้าสั้น หน้ากลม ให้กลายมาเป็นใบหน้าที่ได้สัดส่วน สมมาตร ตั้งแต่หน้าผากจนถึงคาง โดยปกติทั่วไปแล้วคนจะนิยม ปรับรูปหน้าให้เรียวยาวด้วยการ เสริมคาง ซึ่งในปัจจุบันมี เทคนิคการเสริมคาง ด้วยกันหลายวิธี ทั้งการฉีดสารเติมเต็ม การผ่าตัดศัลยกรรม โดยในบทความนี้เราจะเน้นไปที่การผ่าตัดศัลยกรรม เสริมคางด้วยซิลิโคน และจะมาแนะนำ การเลือก เสริมคาง ที่ไหน ถึงจะปรับให้หน้าเรียวสวย ดูเป็นธรรมชาติ

เสริมคาง เพื่อการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน

การเสริมคาง จะเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหารูปหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน เป็นลักษณะโครงสร้างใบหน้าเดิมที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปคาง ซึ่งปัญหาของรูปคางที่พบได้บ่อยจะมีด้วยกัน 6 ลักษณะ ดังนี้

1. คางสั้น : ภาพรวมใบหน้าจะมีลักษณะอ้วน กลม และระยะห่างจากริมฝีปากล่างจนถึงปลายคางจะมีระยะห่างที่น้อยมาก ความยาวของคางสั้นมากจนทำให้รูปหน้าไม่มีความสมดุล
2. คางบุ๋ม : จะสังเกตเห็นรอยยุบที่บริเวณปลายคางเล็กน้อย ซึ่งรูปหน้าที่มีปลายคางบุ๋มจะพบได้มากในคนที่มีเลื้อสายยุโรป มากกว่าคนที่มีเชื้อสายเอเชีย ถ้าหากผู้หญิงมีรูปหน้าแบบนี้ จะทำให้ใบหน้าขาดความหวานละมุน
3. คางตัด : บริเวณปลายคาง จะมีลักษณะเป็นเส้นตัดแนวนอน ทำให้ภาพรวมใบหน้ากลายเป็น หน้าเหลี่ยม หน้าบาน ใบหน้าไม่เป็น V-Shape สัดส่วนใบหน้าดูไม่สมดุลกัน
4. คางยาว : คางที่ยาวมากเกินไป ก็ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย และดูดุ คางแหลมแบบแม่มด ใบหน้าไม่สมส่วน
5. คางเบี้ยว : จะสังเกตเห็นได้ชัด เมื่อถ่ายรูปมุมหน้าตรง จะเห็นว่าปลายคางเบี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้ใบหน้าไม่สมมาตร ใบหน้าเสียสมดุล
6. คางยื่น : ลักษณะคางที่ยื่นออกมาจากริมฝีปาก โดยส่วนใหญ่แล้วคางลักษณะนี้จะเป็นความผิดปกติของโครงสร้างใบหน้า หรือขากรรไกร เป็นลักษณะคางที่แก้ไขปัญหาได้ค่อนข้างยาก

การเสริมคางด้วยซิลิโคน

การผ่าตัดเสริมคางด้วย ซิลิโคน จะเป็นการแก้ไขปัญหา รูปคางที่ไม่ได้รูป เช่น ปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางตัด ที่เหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด การเสริมคางจะช่วยแก้ไขปัญหา ความกังวลใจเกี่ยวกับใบหน้าของคุณ ทำให้คุณมีความมั่นใจขึ้น ส่งผลต่อบุคลิกภาพ รูปลักษณ์ภายนอก ของคุณที่ดูดีขึ้น ซึ่งในการเสริมคางด้วยซิลิโคน จะมีเทคนิคการผ่าตัดด้วยกันหลายแบบ ขึ้นอยู่ความเหมาะสมและเทคนิคเฉพาะของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนการเลือกว่าจะ เสริมคาง ที่ไหน นั้น จะต้องพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้

• ใบอนุญาต : คลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน และน่าเชื่อถือ จะต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เพราะคลินิกที่ไม่มีใบอนุญาต ถือว่าเป็นคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน และเป็นคลินิกเถื่อน
• แพทย์ : แพทย์ประจำคลินิก จะต้องขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพเวชกรรม อย่างถูกต้องตามที่ แพทยสภากำหนด ต้องมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม การเสริมความงาม
• รีวิว : ก่อนการตัดสินใจว่าจะเสริมคางหรือไม่ ต้องมีการดูภาพรีวิวประกอบการตัดสินใจด้วย เพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ของแต่ละเคสหลังจากที่ผ่าตัดเสริมคางแล้ว และต้องดูด้วยว่า ปัญหาคางก่อนทำเป็นแบบไหน ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำเป็นแบบไหน เพื่อให้คุณได้คางสวย ตามที่คาดหวังไว้

การเลือกซิลิโคนเสริมคางให้เหมาะกับใบหน้า

โดยทั่ว ๆ ไปแล้วซิลิโคนที่ใช้เสริมคางมักจะเป็นออกตามลักษณะของซิลิโคน เช่น ซิลิโคนขาสั้น และซิลิโคนขายาว ซึ่งในการเลือกว่าจะใช้ซิลิโคนแบบไหน ต้องดูความเหมาะสมโดยพิจารณาจากความกว้างของกระดูกคาง ประเมินความหนาของเนื้อเยื่ออ่อนที่ปลายคาง เพื่อที่จะให้การเสริมคางดูาสยเป็นธรรมชาติ มองไม่เห็นรอยต่อระหว่างซิลิโคน กับกระดูกคาง และเนื้อเยื่ออ่อนปลายคาง

• ซิลิโคนขายาว : สามารถใช้กับรูปหน้าได้หลายแบบ เพราะสามารถเหลาให้รับกับรูปหน้าได้ ข้อดีของซิลิโคนขายาว คือ จะข่วยล็อคฐานกระดูก ลดการเบี้ยวเอียงหลังเสริม และให้ผลลัพธ์ที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ กรอบหน้าชัดมีความเป็น V-Shape ใบหน้าดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น
• ซิลิโคนขาสั้น : เป็นซิลิโคนที่มีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่ เพราะซิลิโคนขาสั้นจะเหมากับคนที่มีรูปคางอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความยาวคาง หรือเหมาะกับคนที่มีใบหน้าเรียวเล็ก เน้นการเสริมเฉพาะบริเวณปลายคาง

นอกจากการเลือกซิลิโคนเสริมคาง ให้เหมาะกับรูปหน้าของตัวเองแล้ว ยังต้องเลือกผ่าตัดเสริมคางกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การผ่าตัดเสริมคางนั้น มีการวางซิลิโคนที่ถูกตำแหน่ง และมีเทคนิคการผ่าตัดที่ถูกต้อง และในการเสริมคางจะมีเทคนิคการผ่าตัดอยู่ด้วยกันสองแบบ คือ เทคนิคการเปิดแผลด้านนอก และเทคนิคการเปิดแผลจากด้านในปาก

• แผลนอก : เป็นการเปิดแผลที่ด้านนอก บริเวณใต้คาง เพื่อเปิดช่องให้ใส่ซิลิโคนที่ใต้เยื่อหุ้มกระดูกปลายคาง ซึ่งแผลที่ด้านนอกจะมีขนาดเพียง 2-3 เซนติเมตร ข้อดีของการเปิดแผลด้านนอก คือ การดูแลรักษาแผลผ่าตัดได้สะดวก แต่มีข้อจำกัดสำหรับคนที่เป็นคีลอยด์ได้ง่าย ไม่ควรเลือกใช้เทคนิคการผ่าแบบเปิดแผลด้านนอก
• แผลใน : เป็นการเปืดแผลจากด้านในปาก จะเปิดแผลที่บริเวณซอกเหงือกตรงริมฝีปากล่าง ซึ่งแผลจะมีขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร เมื่อเปิดแผลแล้วจะแยกเยื่อหุ้มกระดูกตรงคางขึ้นมา เพื่อวางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก การผ่าตัดด้วยเทคนิคการเปิดแผลใน จะไม่เห็นรอยแผล เหมาะกับคนที่เป็นคีลอยด์ได้ง่าย แต่ข้อจำกัดของแผลใน คือ ต้องมีการรักษาความสะอาดภายในช่องปาก เพื่อป้องกันการอักเสบและติดเชื้อ นอกจากนี้ยังต้องเลือกรับประทานอาหารอีกด้วย

การเสริมคางที่จะได้ผลลัพธ์ออกมาดี คางสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นรอยต่อ จะต้องเลือก เสริมคาง ที่ไหน ? คำตอบก็คือ เสริมกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะถ้าหากแพทย์ขาดประสบการณ์ อาจจะทำให่ช้การเหลาซิลิโคนไม่พอดีกับรูปหน้า หรือการวางซิลิโคนผิดชั้น ทำให้เห็นรอยต่อ ซึ่งอาจจะทำให้กลายมาเป็นจุดบกพร่องในภายหลังได้