
ก่อน การฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
พฤษภาคม 24, 2023
เสริมคาง ที่ไหน ? ให้หน้าเรียวสวยเป็นธรรมชาติ
พฤษภาคม 28, 2023หากกล่าวถึง “พิษศัลยกรรม” อาจจะทำให้หลาย ๆ คน นึกถึงการ ฉีดหน้าด้วย ซิลิโคนเหลว หรือการฉีดสารเติมเต็มชนิดอื่น ที่เรียกว่า ฟิลเลอร์ปลอม เพราะไม่ใช่ฟิลเลอร์ ที่เป็นประเภท กรดไฮยาลูโรนิค (HA) ผลกระทบ ที่เกิดจากการฉีดซิลิโคนเหลว ทำให้ใบหน้าผิดรูป บริเวณที่ฉีดจะเป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้ นั้นทำได้ค่อนข้างยาก และต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง เป็นผู้ทำการผ่าตัดแก้ไข เพื่อให้รูปหน้าที่เสียไป กลับมาได้ใกล้เคียงรูปหน้าปกติได้มากที่สุด
การฉีดสารเหลว
ในอดีตเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว มีการใช้สารเหลว เช่น ซิลิโคนเหลว เป็นสารเติมเต็ม ในการเสริมความงาม ด้านการปรับรูปหน้า และการฉีดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น สะโพก ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าพอใจ ใบหน้ามี Volume สะโพกดูมีสัดส่วนที่สวยงาม แต่หลังจากการฉีด ทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง และส่งผลในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นอาการอักเสบ การไหลของสารเหลว ไปยังบริเวณอื่น การจับตัวเป็นก้อน ทำให้การฉีดสารเหลว เป็นเรื่องที่ต้องห้าม สำหรับการเสริมความงามในสมัยนี้ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ก็ไม่สนับสนุนการฉีดซิลิโคนเหลว สารเหลวต่าง ๆ ที่เรียกรวม ๆ ว่า ฟิลเลอร์ปลอม
ความเสียหายที่เกิดจากการฉีดสารเหลว
หลังจากการฉีดสารเหลว เพื่อการเสริมความงาม และเห็นผลลัพธ์ที่คิดว่าน่าพึงพอใจแล้ว ในเวลาต่อมาสารเหลว จะสร้างความเสียหายให้กับใบหน้า และเนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีด ซึ่งส่งผลต่อเนื่องในระยะยาว และต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุด ความเสียหายที่เกิดจาก การฉีดสารเหลวมีด้วยกันดังนี้
- สารเหลวไหลไปยังตำแหน่งอื่น : หลังจากการฉีดสารเหลวเข้าไปในชั้นผิวแล้ว สารเหลวสามารถเคลื่อนตัว ไปยังบริเวณอื่น ที่ไม่ต้องการได้ ทำให้ผิวเกิดเป็นก้อนขรุขระ ไม่เรียบเนียน ไม่สม่ำเสมอ และทำให้บริเวณนั้นผิดรูปไปจากเดิม
- การอักเสบ : การฉีดสารเหลว ซิลิโคนเหลวเข้าไปในร่างกาย ซึ่งสารเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ร่างกายเกิดการต่อต้าน จึงทำให้เกิดการกระตุ้นการอักเสบเรื้อรัง เกิดการอักเสบบวมแดง มีผื่นแดง นำไปสู่การติดเชื้อเป็นหนอง ตรงบริเวณที่ฉีด
- การติดเชื้อ : เกิดกชจากการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง ไม่ปราศจากเชื้อ จึงอาจจะทำให้มีแบคทีเรียปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อและเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่รุนแรงได้
- การแพ้ : ในบางเคสอาจเกิดอาการแพ้ซิลิโคนเหลว ส่งผลให้เกิดการอักเสบ เกิดเป็นรอยแดง หรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา
- ภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว : การส่งผลเสียในระยะยาว หลังจากการฉีดซิลิโคนเหลว นั่นก็คือการจับตัวเป็นก้อนของซิลิโคน เกิดพังผืด เนื้อเยื่อถูกทำลาย รวมไปถึงอาการปวดแบบเรื้อรัง
แต่ในปัจจุบันการเสริมความงามด้วยการฉีดสารเหลว ซิลิโคนเหลว นั่นไม่ได้รับความนิยม และมีแนวโน้มลดลงเป็นอย่างมาก เพราะผู้คนตระหนักถึงผลกระทบและภาวะแทรกซ้อน ที่เกิดขึ้นภายหลังจากการฉีด ถ้าหากต้องการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็ม ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นประเภท กรดไฮยาลูโรนิค ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย.ไทย และเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ

การผ่าตัด ดึงหน้า เพื่อแก้ไขสารเหลว
การนำเอาสารเหลวออกจากบริเวณที่เคยฉีด ไม่ว่าจะเป็นบริเวณคาง หรือกรอบหน้า รวมไปถึงจมูก เป็นการแก้ไขปัญหาของคนที่มีใบหน้าผิดรูปจากสารเหลว หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งการอักเสบ ติดเชื้อ โดยในการผ่าตัดนำเอาสารเหลวออก ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จะไม่สามารถกำจัดสารเหลวออกได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การผ่าตัดจะเป็นการแก้ไขที่ดีที่สุดและนำเอาสารเหลวออกได้ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าการฉีดสลายอาจจะไม่สามารถช่วยแก้ไขได้นั่นเอง
ที่ Ticha Clinic มีการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อยกกระชับผิวหน้าให้ดูเด็กลง และในขั้นตอนการผ่าตัดสามารถแก้ไขนำเอาสารเหลว ที่คนไข้เคยฉีดมาแล้วทำให้ใบหน้าผิดรูปได้ด้วย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ คือได้แก้ไขปัญหาสารเหลว และได้ปรับโฉมใบหน้าใหม่ ที่ย้อนวัยให้คุณดูอ่อนกว่าวัยได้มากกว่า 10 ปี ซึ่งเทคนิคสำคัญที่ทางทีมแพทย์ของ Ticha Clinic ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าจะเรียกว่า เทคนิค 3D face lock
เทคนิค 3D face lock
ความพิเศษของเทคนิคนี้คือ จะช่วยปรับมิติของใบหน้า ให้สมส่วนมากยิ่งขึ้น ใบหน้าเด็กลง ซึ่งการดึงหน้าจะช่วยล็อคผิวทั้งผิวชั้นลึก ชั้นกลางและชั้นตื้น ยกกระชับใบหน้าให้สวยเป็นธรรมชาติ ผิวไม่เป็นคลื่น เย็บชั้นผิวแบบละเอียด ดึงหน้าที่ธิชาจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ทำเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วจบทุกปัญหาที่คุณกังวล และยังอยู่ต่อเนื่องได้ยาวนานหลายปี อาจมากกว่า 10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และบำรุงผิว รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย
การขูดซิลิโคนเหลว การนำสารเหลวของจากใบหน้า จะต้องดำเนินการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมโดยเฉพาะ และมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโครงสร้าง สรีระของใบหน้า เพราะสารเหลวเหล่านี้จะเกิดการจับตัวกับเนื้อเยื่อ และผิวหนัง มีการกระจายตัวไปทั่วบริเวณ ในบริเวณใบหน้าจะมีเส้นประสาทอยู่มาก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้เส้นประสาทเกิดอาการบาดเจ็บ ส่งผลให้หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ใบหน้าผิดรูปจากเดิมได้