ขมับตอบ ขมับยุบ เป็นจุดบนใบหน้าเล็ก ๆ ที่ทำให้ภาพรวมใบหน้า ดูเปลี่ยนไปได้ ซึ่งการที่ปล่อยให้ขมับตอบ โดยไม่มีการแก้ไข ดูแล จะส่งผลในด้านความงาม รูปหน้าที่ไม่ได้สมส่วน และยังทำให้เป็นลักษณะของ ใบหน้าที่ไม่ดี ตามความเชื่อในเรื่องของโหงวเฮ้งอีกด้วย  ขมับตอบจะทำให้มองเห็นโหนกคิ้ว ดูเด่นชัด คิ้วดูสั้นลง หนังตาตก ดวงตาไม่สดใส ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้าอยู่ตลอดเวลา และยังเห็นโหนกแก้มดูสูงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย

สาเหตุที่ทำให้ขมับตอบ

ลักษณะขมับตอบ สามารถสังเกตได้เอง โดยการจับบริเวณด้านข้างหน้าผาก เวลาจับจะบุ๋มลง และสังเกตเห็นได้ชัดว่า ใบหน้าดูไม่เต็ม ส่วนของขมับมีการยุบลงไป ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ขมับตอบ เกิดได้จากหลายปัจจัย และปัญหาขมับตอบนั้น ยังส่งผลกับภาพรวมของใบหน้า เมื่อขมับบุ๋มเป็นแอ่ง โหนกแก้มก็ดูสูง เด่นชัดขึ้น สัดส่วนใบหน้าไม่สมดุล ใบหน้าโทรม และดูแก่กว่าวัย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ขมับตอบ อาจแบ่งได้ดังนี้

1. โครงสร้างกะโหลกศีรษะ : บางคนมีโครงสร้าง กะโหลกศีรษะเดิม ที่ด้านข้างบริเวณขมับ จะเป็นแอ่งหลุม ขมับลึก เพราะกล้ามเนื้อบริเวณขมับมีขนาดเล็ก หรือกล้ามเนื้อฝ่อมากกว่า ไม่เต็มอิ่มฟูพอดีกับผิวด้านนอก จึงทำให้มองเห็นว่า ขมับตอบ ยุบลง
2. อายุ : โดยปกติแล้ว เมื่อคนเราอายุมากขึ้น โครงสร้างของใบหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งลักษณะกระดูกบนใบหน้า เนื้อเยื่อ ชั้นไขมัน จะเกิดการเสื่อมสภาพ ฝ่อตัวลง จึงทำให้เกิดเป็นรอยบุ๋ม ยุบลงไปตรงบริเวณขมับ ยิ่งอายุมากขึ้น ก็จะยิ่งสังเกตเห็นขมับยุบลงไปได้มากขึ้นตามวัย
3. การจัดฟัน : การจัดฟัน ก็สามารถทำให้ขมับยุบลง ดูตอบได้เช่นกัน เพราะการจัดฟัน จะไปทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อกราม ที่ใช้ในการเคี้ยวอาหาร นั้นทำงานลดลง กล้ามเนื้อรูปพัดที่อยู่ด้านข้างขมับอย่าง กล้ามเนื้อ เทมโพราลิส (Temporalis Muscle) ก็ลีบเล็กลงด้วย จึงทำให้ขมับดูตอบลง

3 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาต้องฉีดฟิลเลอร์ขมับ

1. ใบหน้าดูเหนื่อย และดูแก่กว่าวัย

โดยส่วนใหญ่ของคนที่มีใบหน้าดูเหนื่อย ไม่สดใส และดูแก่กว่าวัย จะเกิดจากการมีลักษณะของใบหน้าที่มีขมับตอบ

2. โหนกแก้มเด่น สัดส่วนใบหน้าไม่สมดุล

ภาพรวมใบหน้าของคนที่มีลักษณะของขมับที่ยุบลง ขมับตอบ จะทำให้สัดส่วนใบหน้าดูไม่สมดุล เพราะจะทำให้โหนกแก้มดูเด่น โหนกแก้มใหญ่กว่าปกติ ยิ่งขมับยุบลงมากโหนกแก้มก็จะยิ่งเด่นชัดมาก

3. ใบหน้าไม่หวานละมุน หน้าดูแข็ง

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าถ้าหากขมับตอบ ก็จะส่งผลทำให้โหนกแก้มสูง โหนกแก้มใหญ่กว่าปกติ ซึ่งการที่มีโหนกแก้มที่เห็นได้ชัด ๆ จะเป็นลักษณะใบหน้าของผู้ชาย ทำให้ใบหน้าดูแมน แข็งทื่อ หน้าดุ ใบหน้าไม่ละมุน

ซึ่งปัญหารูปหน้าที่ปล่อยให้ขมับยุบตัวลง ลักษณะขมับตอบ ทั้งสามแบบ สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่นอกจากจะทำได้ง่าย โดยไม่ต้องผ่าตัดแล้ว ก็ยังช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน โดยการฉีดฟิลเลอร์ประเภท HA ที่จะช่วยคืน Volume ให้ขมับอิ่ม ทำให้ดูสดชื่น มีใบหน้าที่อ่อนกว่าวัย สวยตามหลักโหงวเฮ้ง 

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ

• คืน Volume ให้กับผิว : การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยคืน Volume ให้กับผิวที่บริเวณขมับ ขมับจะดูเต็ม โหนกแก้มจะดูเล็กลง สัดส่วนใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้น
• ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัย : ขมับยุบ ขมับตอบจะให้หน้าดูแก่ แต่เมื่อฉีดฟิลเลอร์เติมขมับให้อิ่มฟูแล้ว ด้านข้างหน้าผากมีความเรียบเนียน ก็ส่งผลทำให้รูปหน้าดูเด็กลงไปด้วย
• คืนความสดใสให้กับใบหน้า : การที่มีขมับตอบจะทำให้หน้าดูโทรม การฉีดฟิลเลอร์ขมับจึงจะเป็นตัวช่วยที่คืนความสดใสให้กับใบหน้า เป็นวิธีการเสริมความงามที่ทำได้ง่ายและไม่ต้องผ่าตัด

แม้ว่าการใช้ฟิลเลอร์ประเภท HA จะสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย และมีการรับรองจาก อย.ไทย และในการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ก็มีข้อควรระวังอยู่เช่นกัน คือ ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ฉีดให้ เพราะถ้าหากแพทย์ที่ฉีดไม่มีความชำนาญ หรือฉีดกับบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง ก็อาจจะทำให้เกิดการฉีดผิดตำแหน่งได้ ซึ่งถ้าหากมีการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง และฉีดผิดตำแหน่ง ก็อาจจะไปโดนเส้นเลือด เกิดการอุดตัน หรือ เกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะบริเวณขมับมีเส้นเลือดที่เชื่อมไปหาดวงตาได้นั่นเอง

อาการหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับ

หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับแล้ว อาจจะพบได้ถึงอาการข้างเคียง เช่น มีรอยช้ำ อาการบวม แดง ตรงบริเวณขมับ โดยจะยุบหายไปเองภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ และในบางเคสอาจจะมีอาการปวดศีรษะ หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับได้ ถ้าหากว่ามีอาการปวดศีรษะ สามารถทานยาแก้ปวดได้ โดยปกติแล้วอาการปวดนี้จะบรรเทาและหายได้ภายใน 1-2 วัน

ปกติแล้วการเติมฟิลเลอร์ที่ขมับ จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ประมาณข้างละ 1-2 ซีซี ขึ้นอยู่กับความลึกของขมับ และขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ตามความเหมาะ ในการฉีดฟิลเลอร์ขมับเพียงหนึ่งครั้งจะทำให้ผลลัพธ์อยู่ยาวนานมากถึง 9-12 เดือน เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตัว ดังนั้นจึงต้องมีการฉีดเติมฟิลเลอร์ซ้ำอีกครั้ง