การฉีด Bo เป็นการเสริมความงามที่ใคร ๆ ต่างก็เลือกทำเป็นอันดับต้น ๆ เพราะ เป็นการปรับรูปหน้า ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เห็นการเปลี่ยนแปลง ของรูปหน้าได้โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว เหมือนกับการผ่าตัดศัลยกรรม โบถูกใช้ในการเสริมความงาม มานานหลายทศวรรษ ไม่เพียงแค่การปรับรูปหน้าเท่านั้น แต่ยังใช้ฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอย สัญญาณแห่งวัย ที่ปรากฏบนใบหน้าได้อีกด้วย

และถึงแม้ว่าโบ จะได้รับความนิยม และมีมานานแล้ว แต่ก็ยังมีความเชื่อ ความเข้าใจผิดมากมาย เกี่ยวกับโบ ทำให้หลาย ๆ คนกลัวที่จะฉีดโบ ซึ่งในบทความนี้เราจะมา อธิบายเกี่ยวกับความเชื่อผิด ๆ นี้ เพื่อให้คุณสามารถใช้โบได้อย่างปลอดภัย

7 ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ โบ

เราได้รวบรวมเอาความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับโบมาทั้งหมดด้วยกัน 7 เรื่อง โดยทั้งหมดนี้ เป็นความเข้าใจผิดของผู้คนส่วนใหญ่ ที่มีมุมมองต่อการฉีดโบ ทำให้เกิดความกลัว คิดว่าเป็นเรื่องที่อันตราย และไม่เข้าใจต่อจุดประสงค์ที่แท้จริงของการใช้โบ

1. โบมีไว้สำหรับการเสริมคงามงามเท่านั้น

หนึ่งในเรื่องที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิด เกี่ยวกับการฉีดโบ คือ โบใช้แค่ในการลดเลือนริ้วรอย เพื่อให้ดูอ่อนกว่าวัยเท่านั้น แต่ความจริงแล้วโบ มีประโยชน์ในทางการแพทย์หลายอย่าง เพราะ โบออกฤทธิ์ต่อการทำงานของระบบประสาท จึงถูกนำมาใช้รักษาอาการปวดไมเกรน รักษาอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ และใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อกระตุก

2. โบเป็นสารพิษที่เป็นอันตราย

เป็นความเข้าใจผิดอย่างมากว่า โบ หรือ โบทูลินั่มท็อกซิน พิษที่ได้จากเชื้อแบคทีเรีย เป็นสารพิษ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้เกิดโรคโบทูลิซึ่ม จริง ๆ แล้วสาเหตุของโรคนี้ เกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน เชื้อแบคทีเรียคลอสทริเดียมเข้าไป ไม่ใช่การฉีดโบ เพราะปริมาณที่ใช้น้อยมาก มีการควบคุมอย่างเข้มงวด และมีการรับรองจากองค์การอาหารและยา แล้ว่า สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย

3. ฉีดโบทำให้หน้าแข็งไม่เป็นธรรมชาติ

หลาย ๆ คนยังมีความเข้าใจ ว่าการฉีดโบ จะทำให้ใบหน้าแข็ง ไม่สามารถแสดงสีหน้า ได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าหากใช้โบ ในปริมาณที่เหมาะสม และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลังฉีดโบ ไม่ว่าจะเป็นการฉีด เพื่อลดขนาดกราม การปรับรูปหน้าให้เป็น V-Shape รวมไปถึง การลดเลือนริ้วรอย ก็จะทำให้ใบหน้าสวย อย่างเป็นธรรมชาติ และสิ่งสำคัญคือ ถ้าหากใช้โบในปริมาณที่มากเกินไป หรือการฉีดผิดตำแหน่ง เพราะ แพทย์ที่ฉีดไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็อาจจะทำให้ใบหน้าแข็ง ผิดธรรมชาติ รวมไปถึงการทำงานของ กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่ผิดปกติ

4. การฉีดโบ เป็นการเสริมความงามที่เจ็บมาก

มีหลาย ๆ คนที่กลัวการฉีดโบ เพราะคิดว่าเป็นหัตถการที่เจ็บ การฉีดโบลงไปลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อจะทำให้ปวดมาก แต่ในชั้นตอนการฉีดจะมีการประคบเย็น หรือการแปะยาชาด้วย เพื่อให้บริเวณที่จะฉีดนั้นเกิดอาการชา เมื่อฉีดโบลงไปแล้วจะรู้สึกคล้ายกับอาการยุงกัด ในการฉีดจะใช้เวลาไม่มาก และเข็มที่ใช้ก็มีขนาดเล็กมาก จึงไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้เท่าใดนัก

5. การฉีดโบ เป็นหัตถการสำหรับผู้หญิงเท่านั้น

ยังมีความเข้าใจผิด ที่ว่า การฉีดโบทำได้เฉพาะในผู้หญิงเท่านั้น แม้ว่าโดยปกติแล้วเรามักจะเห็นผู้หญิงที่ดูแลตัวเอง จะฉีดโบเพื่อลดเลือนริ้วรอย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การฉีดโบเป็นหัตถการที่ เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยในปัจจุบันผู้ชายเองก็เริ่มหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น ผู้ชายที่ฉีดโบเพื่อปรับรูปหน้า หรือฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอย ก็เพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

6. การฉีดโบ อย่างต่อเนื่อง คือการเสพติดศัลยกรรม

มีหลาย ๆ คนกังวลว่าการฉีดโบ จะทำให้เสพติดศัลยกรรม และจะต้องมีการฉีดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่เป็นความจริง ถ้าหากอยากให้เห็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ก็ต้องฉีดซ้ำในทุก ๆ 3-4 เดือน และสามารถหยุดใช้ได้ ไม่ได้เกิดการเสพติดแต่อย่างใด เมื่อหยุดใช้แล้ว กล้ามเนื้อบริเวณที่เคยฉีดก็จะกลับเข้าสู่สภาวะเดิมก่อนฉีด

7. โบมีราคาแพง

หลายคนยังมีความคิดว่าการฉีดโบ จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำหัตถการที่ค่อนข้างสูง แต่จริง ๆ แล้วในท้องตลาดมีโบ ให้เลือกหลายแบรนด์ จากหลาย ๆ ประเทศ ราคาจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งการฉีดโบ สามารถจ่ายได้ในงบหลักพัน

หวังว่าหลังจากที่ได้อ่าน จะทำให้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Bo ของหลาย ๆ คนนั้นได้ถูกแก้ไข และคลี่คลายลง สิ่งสำคัญในการฉีดโบ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโบที่ใช้ในการรักษา หรือใช้เพื่อการเสริมความงาม จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงการฉีดโบด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง

และต้องมีความเข้าใจว่าผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการฉีดจะไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในทันที ต้องรอให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งในแต่ละเคสก็จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน ถ้าหากมีข้อสงสัย หรือมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้โบ รวมไปถึงต้องการสอบถามรายละเอียดในการฉีดโบ สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่ Ticha Clinic