การเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า แก้มไม่เท่ากัน จะเริ่มสังเกตเห็นได้เมื่อ เรามีอายุเพิ่มมากขึ้น นั่นเป็นเพราะว่า อายุที่มากขึ้นจำนวนคอลลาเจนก็ลดลง ผิวหนังในชั้น SMAS มีการเปลี่ยนแปลง กระดูกบนใบหน้ามีการทรุดตัว รวมไปถึง ไขมันและเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนัง เส้นเอ็นยึดผิวต่าง ๆ ก็จะมีความหย่อนคล้อยลง ซึ่งการเติมเต็มในชั้นผิวจะทำได้ โดยการเติม ฟิลเลอร์ ที่เป็นประเภท กรดไฮยาลูโรนิค เพราะเป็นสารชนิดเดียวกันที่อยู่ในผิวของเรา

ผิวหนังของคนเราจะมีกรดไฮยาลูโรนิค เป็นส่วนประกอบอยู่ในชั้นผิวอยู่แล้ว เป็นตัวที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น กรดไฮยาลูโรนิค มีความสามารถในการอุ้มนำ ได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนัก และตัวกรดไฮยาลูโรนิค ยังมีส่วนสำคัญในการรักษาระดับความชุ่มชื้นในผิว นอกจากในผิวแล้ว เรายังพบกรดไฮยาลูโรนิคได้ในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ตามข้อต่อ ดวงตา เป็นต้น

สาเหตุที่ทำให้รูปหน้าไม่สมมาตร

• พันธุกรรม : ในบางคนอาจจะมีภาวะหนึ่งที่ส่งผลต่อการพัฒนาของกระดูก หรือกล้ามเนื้อบนใบหน้า จึงทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน ซึ่งภาวะนี้สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม เป็นความไม่สมดุลของใบหน้าที่ถูกส่งผ่านมาจากทางฝั่งพ่อ หรือแม่ และในบางครั้งก็มาจากทั้งพ่อและแม่

• ปัญหาด้านพัฒนาการ  : ปัญหาใบหน้าที่ดูไม่สม่ำเสมอ เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ที่เรายังเป็นทารกอยู่ในครรภ์ เพราะเกิดการหยุดชะงักของขั้นตอนกระบวนการพัฒนาใบหน้า ทำให้ใบหน้าด้านใดด้านหนึ่งโตช้ากว่าอีกด้านหนึ่ง จึงทำให้ใบหน้าไม่เท่ากัน

• การบาดเจ็บ : เกิดอาการบาดเจ็บที่ใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อย หรือการบาดเจ็บที่ทำให้กระดูกแตก หรือหัก เช่น จมูกหัก กรามหัก ก็จะส่งผลต่อการเรียงตัวของกระดูกและกล้ามเนื้อใบหน้า จึงเกิดเป็นลักษณะใบหน้าที่ไม่สม่ำเสมอ ไม่สมดุล

• ปัญหาเกี่ยวกับฟัน : ปัญหาเกี่ยวกับฟัน เช่น มีฟันที่ไม่ตรงแนว มีฟันหายไป หรือมีปัญหาเกี่ยวกับกราม ก็ทรงผลต่อความสมดุลรูปหน้าได้

• อายุที่มากขึ้น : อายุที่มากขึ้นส่งผลต่อความยืดหยุ่นของผิว มีการหย่อนคล้อยของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูไม่สม่ำเสมอ รูปหน้าไม่กระชับ ไม่ได้สัดส่วน นอกเหนือจากอายุุแล้ว ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลเสียหายต่อผิว ก็จะมีแสงแดด รวมไปถึงการสูบบุหรี่ เป็นต้น

การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า

การฟื้นฟูผิว และการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ฟิลเลอร์ถูกใช้ในการเพิ่ม Volume ให้กับผิวหน้า ทำให้ริ้วรอยดูลดเลือนลง ร่องลึกบนใบหน้าก็ถูกเติมเต็มให้ตื้นขึ้น และถูกใช้เป็นตัวพยุงผิว แทนกระดูกใบหน้าที่ยุบตัวลงไป รวมไปถึงไขมันละเนื้อเยื่อที่ฝ่อตัวลงไปด้วย ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ฟิลเลอร์ จะช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนและดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้นั่นเอง

• ขมับ : ใบหน้าในส่วนนี้เป็นส่วนที่หลาย ๆ คนอาจมองข้าม แต่ความเป็นจริงแล้ว ขมับเป็นจุดที่สำคัญของใบหน้า ที่ทำให้สัดส่วนใบหน้าชัดเจนอีกจุดหนึ่งเลย เพราะถ้าหากขมับมีรอยยุบ บุ๋มลึกลงไป ก็จะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ดูมีอายุ การเติมฟิลเลอร์ขมับจึงเป็นการคืนความอ่อนเยาว์ และเพิ่มความสมดุลให้กับใบหน้าได้
  
• ร่องแก้ม : ร่องแก้ม หรือ Nasolabial fold จะสังเกตเห็นเป็นเส้นที่เกิดขึ้นบริเวณด้านข้างจมูกยาวลงไปถึงมุมปาก รอยพับที่บีิเวณนี้จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อเราอายุเพิ่มขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ตรงบริเวณร่องแก้มนี้ จะช่วยเติมร่องลึกให้ตื้นขึ้น เป็นการคืนปริมาตรให้ผิวส่วนนี้ เมื่อร่องแก้มหายใบหน้าก็ดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย
  
• แก้ม : บริเวณแก้ม โหนกแก้ม เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างใบหน้า เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระดูกบนใบหนายุบตัวลง แก้มตอบลง ก็จะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ดูมีอายุ และในบางครั้ง แก้มไม่เท่ากัน ทั้งสองฝั่ง ใบหน้าจึงไม่สมดุล ไม่ได้สัดส่วน ดังนั้นการเติมฟิลเลอร์จะคืน Volume ให้กับผิวในส่วนนี้ ใบหน้าจึงดูอ่อนกว่าวัย
  

• กรอบหน้า : ผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้า หรือแนวกรามไม่ชัดเจน ใบหน้าจึงไม่สมมาตร ใบหน้าสูญเสียความสมดุล การฉีดฟิลเลอร์ตามกรอบหน้า หรือ Jawline Contouring จะปรับให้ภาพรวมใบหน้าดูมีมิติ เห็นหรอบหน้าได้ชัดเจนมากขึ้น
  
• คาง : คางที่สวยได้รูป เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ใบหน้าสมมาตรดูสวยงาม ถ้าหากคนที่มีปัญหาคางสั้น คางทู่ หรือคางบุ๋ม มักทำให้ใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วน ซึ่งใบหน้าที่ดี และสวยงาม จะต้องมีสัดส่วนเป็น 1:1:1 ตามหลัก Golden Ratio การเติมฟิลเลอร์คางจึงจะช่วยแก้ปัญหาคางได้ ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเรียวยาว ได้รูปมากขึ้น ภาพรวมใบหน้าจึงทำให้สวยหวาน ละมุน ดูเป็นธรรมชาติ
  
• ปาก : สำหรับใครที่มีริมฝีปากไม่สมมาตร ริมฝีปากบางเกินไป ริมฝีปากไม่เป็นทรงสวย ทั้งริมฝีปากบนและริมฝีปากล่าง สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อเพิ่ม Volume ความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากได้ ทั้งยังสามารถปั้นทรงปากได้หลายแบบ ทั้ง ปากกระจับ ปากแบบสาวเกาหลี ปากแบบสาวฝรั่ง สายฝอ เพื่อให้ริมฝีปากสวยและน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น

ความไม่สมดุลของใบหน้า เป็นปัญหาที่พบได้ค่อนข้างบ่อย เพียงแต่หลาย ๆ คนอาจไม่ได้สังเกตเห็นเท่านั้นเอง และถ้าหากว่าปัญหาความไม่สมดุลบนใบหน้าของคุณ สังเกตเห็นได้ชัด ว่าหน้าทั้งสองไม่เท่ากัน มีความหย่อนคล้อยเกิดขึ้น คุณควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะสามารถทำให้คุณรู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัด สามารถหาวิธีการรักษาได้อย่างตรงจุดและเหมาะสมได้นั่นเอง