
7 วิธีการเลือก คลินิกเสริมจมูก
เมษายน 23, 2023
แก้มไม่เท่ากัน ใบหน้าไม่ได้สัดส่วนเกิดจากอะไร ?
เมษายน 29, 2023ปัญหาใต้ตาคล้ำ หน้าหมองดูโทรม ไม่สดชื่น เป็นปัญหาที่พบได้ค่อนข้างบ่อย และหลาย ๆ คนก็พบเจอกับปัญหาใต้ตาคล้ำ เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ยิ่งอายุมากยิ่งเห็นร่องใต้ตา ที่คล้ำชัดมากยิ่งขึ้น ทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูอ่อนล้าอยู่ตลอดเวลา และยังทำให้แก่กว่าวัยอีกด้วย ปัญหาเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อความมั่นใจ เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ผิวที่บริเวณใต้ตา ซึ่งการรักษาผิวใต้ตาที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลได้อย่างชัดเจนจะมีด้วยกันอยู่ 3 วิธี ได้แก่ การฉีดเมโส การทำเลเซอร์หรือ IPL และการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา โดยในบทความนี้จะเน้นไปที่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การรักษาผิวใต้ตาจากความหมองคล้ำ ที่ตรงจุดมากที่สุด ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน และใช้เวลาในการรักษาน้อยมาก ๆ จะเป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท กรดไฮยาลูโรนิค (HA) หรือที่มักเรียกกันว่า ฟิลเลอร์ การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา จะเป็นการรักษาผิวหนังใต้ตาคล้ำ ที่มีสาเหตุมาจาก ขอบตาดำจากกรรมพันธุ์, ใต้ตาคล้ำจากการเป็นโรคภูมิแพ้, การขยี้ตาบ่อยๆ, ความเครียด, การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ รวมไปถึงการที่มีอายุมากขึ้น แล้วโครงสร้างใบหน้า นั้นมีการทรุดตัวลง ฟิลเลอร์ยังถูกใช้เติมเต็มเพื่อริ้วรอยใต้ตาตื้นขึ้น แก้ไขปัญหาตาลึก ตาโหล ที่ไม่สามารถใช้วิธีอื่น ๆ รักษาได้

หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผิวบริเวณนั้นจะดูอิ่มฟูขึ้น ความหมองคล้ำ ขอบตาที่ดำก็ดูสว่าง สดใสขึ้น ร่องใต้ตาก็ตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ การเปลี่ยนแปลงนี้ จะเห็นได้ทันทีหลังจากที่ฉีด และจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะคงอยู่อย่างต่อเนื่องไปเป้นระยะเวลาประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์ และขึ้นอยู่กับกระบวนการ เมแทบอลิซึม (Metabolism) ของแต่ละคนอีกด้วย
7 ข้อห้าม ที่ต้องรู้ ก่อนการฉีด ฟิเลลอร์ใต้ตา
ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ มีขั้นตอนการเตรียมตัว และข้อห้ามที่ต้องทราบ รวมไปถึงคำแนะนำ สำหรับการปฏบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อม และที่สำคัญเลยก็คือ การได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และน่าพึงพอใจที่สุด และนี่คือ 7 ข้อห้ามที่ควรรู้ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ห้ามละเลยการปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง : เพราะการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้มีการวางแผนการรักษาที่ถูกต้อง มีการประเมินปัญหาผิว คำนวณปริมาณการใช้ฟิลเลอร์ได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ผลการรักษาออกมาน่าพึงพอใจ ตามที่ได้คาดหวังเอาไว้นั่นเอง
- ห้ามปกปิดข้อมูลด้นสุขภาพ : ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว การแพ้ยา แพ้อาหาร รวมไปถึงยาที่ต้องรับประทานอยู่เป็นประจำ เพื่อให้แพทย์ประเมิน และพิจารณาว่าสมควรรับการฉีดฟิลเลอร์หรือไม่
- ห้ามใช้ยาในกลุ่มยาแอสไพริน : กลุ่มยาแอสไพริน หรือ NSAIDs จะเพิ่มความเสี่ยงของอาการที่มีเลือดออก เกิดรอยช้ำในบริเวณที่ฉีดได้มากขึ้น ซึ่งยาที่อยู่ในกลุ่มยาแอสไพริน จะมีผลกับการแข็งตัวของเลือดด้วย เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และรวมไปถึงอาหารเสริมบางชนิด ที่มีส่วนประกอบของวิตามินอี , น้ำมันปลา, น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส, สารสกัดจากโสม, ขิง, กระเทียม และใบแปะก๊วย เนื่องจากสารเหล่านี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไหลไม่หยุดหรือหยุดยากกว่าปกติ
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ : การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ก่อการเข้ารับบริการ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวขาดน้ำ จึงทำให้การเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนด้วย ไม่ว่าจะเป็นชา หรือกาแฟ
- ห้ามละเลยการดื่มน้ำ : การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เปรียบเสมือนเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมต่อการฉีดฟิลเลอร์ เพราะถ้าหากดื่มน้ำสะอาดไม่เพียงพอ ผิวจะขาดความชุ่มชื้นได้
- ห้ามแต่งหน้า : ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ควรแต่งหน้า ไม่ควรใช้เครื่องสำอาง แต่ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินผิวบริเวณที่จะฉีดได้อย่างชัดเจน และกำหนดจุดที่จะฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ
- ห้ามออกกำลังกาย : ถึงแม้ว่าหลังจากการฉีดฟิลเลอร์จะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ แต่ในช่วงแรก ๆ ก็งดการออกกำลังกายแบบหนัก ๆ หรืองดการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง เพราะหลังจากการฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมอยู่ประมาณ 2-3 วัน การออกกำลังกายอาจจะไปกระตุ้นให้มีอาการบวมรุนแรงขึ้นนั่นเอง

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เมื่อเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านฟิลเลอร์ แพทย์จะประเมินปัญหาผิว ปัญหาที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของเราให้ทราบ จากนั้นจะอธิบายขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์ให้เข้าใจ ซึ่งในการฉีดจะใช้เวลาประมาณ 5-20 นาที ซึ่งจะมีขั้นตอนดังนี้
- ทำความสะอาดผิวหน้า ล้างเครื่องสำอางออกอย่างหมดจด
- แพทย์จะทำการวาดจุด ทำเครื่องหมายในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์
- ทายาชาบริเวณใต้ตา และรอเวลาให้ยาชาออกฤทธิ์
- แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ลงไปยังจุดที่ได้ทำเครื่องหมายเอาไว้
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ได้อย่างตรงจุด และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากที่สุด เมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ทั้งยังแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึก ให้ดูสวยขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง ซึ่งโดยปกติแล้วการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีการใช้ฟิลเลอร์อยู่ 2 แบบ คือแบบที่เป็นเนื้อเจล แต่มีความแข็ง ฉีดเติมเพื่อพยุงชั้นกระดูกบนใบหน้า และฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อเจลนิ่ม ฉีดพยุงรอบ ๆ เบ้าตา เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นธรรมชาติ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินในเรื่องของการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาใต้ตา หรือในบางกรณีก็อาจจะต้องฉีดฟิลเลอร์ทั้งสองแบบ