ฉีดหน้า ครั้งแรกต้องเติม ฟิลเลอร์ หรือโบ

วงการ ฉีดหน้า เข้าแล้วออกไม่ได้ หลาย ๆ คนหลังจากที่ได้เริ่มดูแดตัวเองด้วยการฉีดหน้า การทำหัตถการต่าง ๆ บนใบหน้า ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “รู้แบบนี้ฉีดนานแล้ว” เพราะผลลัพธ์ที่ได้คือเห็นได้ชัดว่า ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น หน้าเป็นวีเชฟ มั่นใจขึ้นมากกว่าเดิม สำหรับใครที่ยังไม่ได้เข้าวงการ ฉีดหน้า หรือกำลังคิดว่าจะฉีดอะไรดี ระหว่าง ฟิลเลอร์ กับโบ เราขอแนะนำเลยว่าห้ามพลาด เพราะในบทความนี้เราจะมาเล่ารายละเอียดของการฉีดหน้าทั้งสองโปรแกรม เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และเข้าใจปัญหาผิวหน้าของตัวเองมากขึ้นด้วย

ฟิลเลอร์ ฉีดตรงจุดไหนได้บ้าง ?

ฟิลเลอร์ สารเติมเต็มที่นำมาใช้ด้านการเสริมความงามได้อย่างปลอดภัย จะเป็นฟิลเลอร์ที่เป็นประเภท HA หรือกรดไฮยาลูโรนิค และต้องผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย.ไทย ตำแหน่งที่คนมักจะฉีดตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เพื่อแก้ไขปัญหริ้วรอย ร่องลึก ปรับแต่งรูปหน้าได้ดังนี้

• ขมับ : การเติมฟิลเลอร์ที่บริเวณขมับ เพื่อแก้ไขปัญหาขมับตอบ ปัญหาโหนกแก้มสูง ทำให้หน้าดูแข็ง ดูมีอายุ หลังจากเติมขมับแล้ว โหนกแก้มจะไม่เด่น ทำให้ภาพรวมใบหน้าดูอ่อนหวาน ละมุนขึ้น
• แก้มส้ม : การฉีดแก้มส้ม หรือการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณ Middle Face จะช่วยทำโหนกแก้มโค้งมนเป็น S-Curve หน้าไม่แบน มีมิติมากขึ้น ใบหน้าดูกระชับ ไม่หย่อนคล้อยลงมา ใบหน้าอ่อนเยาว์ลง และเปลี่ยนบุคลิกให้สวยหวานกว่าเดิม
• ร่องใต้ตา : การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา เพื่อลดความหมองคล้ำ แก้ไขปัญหาใต้ตาดำ ใบหน้าโทรม ดูไม่สดใส ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากที่ฉีด เพราะบางครั้งการแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำด้วย อายครีม อาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร
• ร่องแก้ม : สำหรับคนที่มีร่องแก้ม ร่องแก้มลึก ก็จะทำให้ดูแก่กว่าวัยได้ การแก้ปัญหานี้สามารถทำได้โดยการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ดูเด็กลง สวยอย่างเป็นธรรมชาติ
• หน้าตอบ : แก้มตอบ โหนกแก้มสูง หน้าซูบโทรม ต้องแก้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมใบหน้าปรับภาพรวมให้หน้ามีมิติ แก้ไขปัญหาโหนกแก้มสูง ใบหน้าไม่สดใส เมื่อแก้มเต็มขึ้นหน้าก็จะสดใส ดูเด็กลงด้วย
• ปาก : ฟิลเลอร์ฉีดที่บริเวณริมฝีปากเพื่อทำให้ปากอวบอิ่มเป็นทรงสวย และยังสามารถปั้นปากเป็นทรงกระจับได้ด้วย ทั้งนี้ฟิลเลอร์ก็ถูกนำมาเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก แก้อาการปากแห้ง แตก ปากลอกเป็นขุย
• คาง : การฉีดฟิลเลอร์คางจะเป็นการทำเพื่อปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่ดีขึ้น ใบหน้าดูสมส่วน สวยละมุน ใช้แก้ไขปัญหาใบหน้ากลม หน้าสั้น คามตัด คางบุ๋ม ปรับให้หน้าเป็นทรง V-Shape ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คางคือ ไม่มีแผล ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาในการทำไม่นาน

โบ ฉีดจุดไหนบนใบหน้าได้บ้าง ?

โบ หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เป็นสารที่สกัดได้จากแบคทีเรียชนิด Clostridium botulinum ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว จึงทำให้ริ้วรอยและร่องลึกที่ปรากฏบนผิวมองเห็นได้น้อยลง โดยปกติแล้วโบจะนิยมฉีดตามจุดต่าง ๆ ดังนี้

• หน้าผาก : ริ้วรอยบริเวณหน้าผากที่เกิดจาก การแสดงอารมณ์ การแสดงสีหน้า ริ้วรอยตรงหน้าผากจะเริ่มลึกขึ้นและชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุมากขึ้นจะสังเกตเห็รว่าหน้าผากเหี่ยวย่น และต้องแก้ไขด้วยการฉีดโบริ้วรอยที่หน้าผาก
• รอยตีนกา : ริ้วรอยรอบดวงตา โดยเฉพาะรอยตีนกา เกิดขึ้นได้ค่อนข้างง่าย เพราะเป็นบริเวณที่มีการขยับอยู่เป็นประจำ รอยย่นนี้ สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ด้วยการฉีดโบ หลังจากที่ฉีดแล้วริ้วรอย รอยย่นเลือนหายไป
• ปีกจมูก : ฉีดโบที่บริเวณปีกจมูก จะช่วยแก้ไขปัญหาปีกจมูกบาน ปีกจมูกใหญ่ เพราะโบจะทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อ ส่วนที่ควบคุมการขยับของปีกจมูกให้ลดลง ผลลัพธ์หลังจากที่ฉีดจะช่วยลดขนาดของปีกจมูกลงได้ ปีกจมูกแคบลง จมูกดูเรียวเล็ก ดูรับกับใบหน้ามากขึ้น
• กรอบหน้า : การยกกระชับกรอบหน้าด้วยโบ จจะเป็นการฉีดไปที่บริเวณกรอบหน้า ใต้คาง เพื่อคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ ทำให้ดึงผิวหน้าได้น้อยลง หน้าดูเรียวขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้น และถ้าทำคู่กับโบกรามจะยิ่งปรับรูปหน้าให้สวยยิ่งขึ้น
• กราม : สำหรับที่มีปัญหาเนื้อกรามใหญ่ ทำให้หน้าบาน ใบหน้ากว้าง สามารถฉีดลดกรามได้ดวยโบ เพราะตัวยาจะส่งผลทำให้กล้ามเนื้อกรามคลายตัว กรามดูหดเล็กลง ใบหน้าเรียวเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นการปรับรูปหน้าที่นิยมมากที่สุดพอ ๆ กับการฉีดฟิลเลอร์
• คอ : สัญญาณแห่งวัยอีกอย่างหนึ่งก็คือ ริ้วรอย ความหย่อนคล้อยที่คอ ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ถ้าหากหน้าสวยแล้ว และอยากทำให้คอเรียบเนียน ต้องฉีดโบที่บริเวณลำคอเพื่อลดรอยเหี่ยวย่น และรอยปล้องที่คอ

ฟิลเลอร์ VS โบ

ฟิลเลอร์กับโบ ถูกใช้เพื่อการปรับรูปหน้า การลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะเป็นการเสริมความงามที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ข้อบ่งใช้ระหว่างฟิลเลอร์กับโบ ก็มีความแตกต่างกันอยู่

คุณสมบัติ : ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม ใช้เพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวหน้า ศัลยแพทย์มักใช้ฟิลเลอร์เพื่อการเติมเต็มร่องลึก แต่โบ มีตัวยาที่ส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว จึงส่งผลให้ริ้วรอย รอบพับบนใบหน้าดูจางลง

บริเวณที่ฉีด : ฟิลเลอร์จะถูกใช้เพื่อการเติมเต็มตามจุดบนใบหน้า เช่น เติมขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม เติมแก้มตอบ ฉีดริมฝีปาก และฉีดคาง ใช้ในการปรับรูปหน้าให้มีมิติมากกว่าเดิม แต่โบจะได้ฉีดริ้วรอยที่บริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา ปีกจมูก ฉีดลดกราม และยกกระชับกรอบหน้า

ระยะเวลา : ผลลัพธ์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถคงตัวอยู่ได้ในระยะยาว อาจจะอยู่ได้ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับแบรนด์ รุ่นที่ใช้ และบริเวณที่ฉีดด้วย แต่ผลลัพธ์หลังจากฉีดโบท็อกซ์โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานแค่เพียง 3-6 เดือนเท่านั้น