ความจริงแล้วการทำ ปากกระจับ เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากเป็นการปรับ ให้รูปร่างของปากให้เข้า หรือทำให้สอดรับ เข้ากันกับส่วนต่าง ๆ บนใบหน้ามากยิ่งขึ้น การทำปากกระจับ เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยสร้างความสมดุล ให้กับใบหน้า ได้อีกด้วย ทั้งนี้การทำปากกระจับ เป็นการตัดแต่ง เนื้อริมฝีปาก เพื่อให้เกิดความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เพียงแค่คนที่มีริมฝีปากหนา เท่านั้นที่ทำได้ แต่คนที่มีเนื้อริมฝีปากน้อย หรือริมฝีปากบางก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

วิธีดูแลตัวเองหลังทําปากกระจับ

• หมั่นประคบเย็นช่วง 3 วันแรก หลังจากการทำปากกระจับ ควรประคบเย็นบริเวณริมฝีปากอยู่เสมอ โดยปกติภายใน 1 วันควรประคบได้อย่างต่ำ วันละ 4 รอบ

• หลัง 3 วัน ประคบอุ่นทันที และควรทำติดต่อกัน เป็นระยะเวลา 3 วันหรือจนกว่าจะถึง วันนัดตัดไหม

• ไม่แนะนำให้แปรงฟัน หากงดได้จะเป็นการดี แต่หากทนไม่ไหวจริง ๆ สามารถแปรงได้ แต่ควรแปรงด้วยความเบามือ อีกทางเลือกหนึ่งคือ การบ้วนปาก โดยใช้น้ำเกลือ หรือนำเอาน้ำเกลือ มาผสมกับน้ำยาบ้วนปาก เพื่อทำความสะอาด

• หลังจาก 4 วัน ของการทำปากกระจับ ไปจนถึงวันก่อนตัดไหม สามารถแปรงฟันได้ แต่แนะนำ ให้ใช้แปรงสีฟัน และยาสีฟันสำหรับเด็ก และใช้หลอดดื่มน้ำ เพื่อป้องกัน ไม่ให้แผนโดนน้ำ มากจนเกินไป และลดอาการติดเชื้อ

• ล้างแผลอย่างน้อย 4 ครั้งต่อ 1 วัน ใช้สำลีชุบน้ำเกลือ ทำความสะอาดตามตำแหน่งที่ผ่าตัด

• นอนหมอนสูง กว่าปกติในช่วง 3 วันแรก ของการทำปากกระจับ หลังจากนั้นให้นอนหมอนปกติ ในลักษณะท่าทาง เป็นการนอนหงายตรง

• รับประทานยาที่ได้รับจากคลินิกให้ครบถ้วน

• หลังจากตัดไหมแล้ว ควรนวดปากสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ปากแข็งเป็นไต

อาหารต้องห้ามหลังทํา ปากกระจับ

นอกจากการดูแลตัวเอง หลังทำปากกระจับแล้ว หนึ่งในเรื่องที่ควรใส่ใจมากที่สุด ในการดูแลหลังทำปากกระจับ คือ การเลือกอาหาร ในการรับประทาน โดยจำเป็นต้องงดเว้น อาหารบางอย่าง เพื่อรักษาแผล หลังจากการทำปากกระจับ ไม่ให้เกิดอาการอักเสบ หรือติดเชื้อ

• อาหารที่มีรสเผ็ด อาทิ หม่าล่า ส้มตำ ยำ ต้มยำ ผัด หรือแกงที่มีรสเผ็ด ถึงแม้ว่าจะเผ็ดน้อย หรือเผ็ดอ่อน ก็ยังไม่ควรรับประทาน เนื่องจากความเผ็ด ไม่ใช่เรื่องของรสชาติ แต่เป็นในแง่ของความรู้สึก และความเจ็บปวด เดิมทีร่างกายมนุษย์ ไม่มีต่อมรับรสเผ็ด จึงส่งผลให้แผล อาจจะมีความแสบร้อน เจ็บปวด หรือแม้แต่อาหารอย่าง ส้มตำ ที่เราไม่สามารถมั่นใจ ในเรื่องของความสะอาดได้ จึงส่งผลในแง่ของการ ที่แผลทำปากกระจับอาจจะเกิดการอักเสบได้

• ของหมักดอง ในกรรมวิธีการของหมักดองนั้นอาจมีการเจือปนของสารเคมีหรือสารที่ช่วยให้คงสภาพวัตถุดิบไว้ หากรับประทานหลังทำปากกระจับก็อาจส่งผลให้หายช้ากว่าปกติหรือเกิดอาการติดเชื่อ เนื่องจากสาร จุลินทรีย์ หรือแบคทีเรียบางอย่างที่ปะปนอยู่ในของหมักดอง

• อาหารเสริม อยากสวยเร็วก็ต้องจัดอาหารเสริม ถือได้ว่าเป็นความเชื่อที่ผิดในการทำปากกระจับ นอกจากแผลจะไม่หายแล้ว แต่ยังเป็นการไปกระตุ้นให้แผลหลังจากการทำปากกระจับบวมเป่งมากกว่าเดิม

• แอลกอฮอล์ เผ็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำศัลยกรรมใดใด ควรงดแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังทำ นอกจากจะส่งผลให้แผลผ่าตัดหายช้าแล้ว หากดื่มจนเมาขาดสติก็จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อตัวปากกระจับเองหรือแม้กระทั่งต่อร่างกายอีกด้วย

และสำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า หลังทําปากกระจับ กินกาแฟได้ไหม ขอแนะนำว่าให้ลดปริมาณจากที่เคยดื่มปกติ หรืองดได้เลยก็จะเป็นผลดีที่สุด เนื่องจากในกาแฟจะมีคาเฟอีน ที่จะส่งผลให้เลือดสูบฉีดได้ดี จึงทำให้หลังจากการทำปากกระจับแล้วไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะจะส่งผลให้มีเลือดไหลในปริมาณที่มากกว่าปกติ

หลังทําปากกระจับ กินอะไรได้บ้าง?

หากท่านใดที่กำลังมีความกังวล หลังจากอ่านหัวข้อ อาหาร ต้อง ห้าม หลังทํา ปากกระจับ แล้วจะสามารถรับประทานอะไรได้บ้าง หรือคิดไม่ออกว่าจะทานอะไรดีหลังจากทำปากกระจับ ทางเราขอเสนออาหารประเภทต่าง ๆ ที่ช่วยให้การรับประทานอาหารหลังการทำปากกระจับ เป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ปลอดภัยมากขึ้นและไม่ส่งผลข้างเคียงให้รำคาญใจที่จะต้องมาตามแก้ในภายหลัง

• อาหารประเภทโปรตีน (เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่วต่าง ๆ) อาทิ สลัดธัญพืช โจ๊กอกไก่ปั่น อกไก่นึ่ง เป็นต้น ช่วยให้แผลหลังจากการทำปากกระจับสมานเร็วขึ้น ใช้ชีวิตได้ง่าย เนื่องจากแผลสมานกันเร็วส่งผลให้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

• อาหารประเภทไขมันดี เช่น งา น้ำมันมะกอก ขนมปังโฮลวีท แซลมอน มีส่วนช่วยในการประสานสร้างเซลล์ผิวใหม่ เมื่อทำงานร่วมกับอาหารประเภทโปรตีน จะทำให้เซลล์ถูกสร้างได้อย่างรวมเร็วมากยิ่งขึ้นและเกิดเป็นเยื่อหุ้มผิวใหม่ ส่งผลให้แผลหายเร็วและฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี

• ผักและผลไม้ที่มีส่วนช่วยในเรื่องลดอาการช้ำอย่างใบบัวบก ช่วยได้อย่างมากในแง่ของหลังการทำปากกระจับแล้วเกิดการบวมช้ำ

หลังทําปากกระจับ ควรทาอะไร?

ความจริงแล้วหลังจากทำปากกระจับไม่ควรทาอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นการสครับปาก บำรุงด้วยวาสลีน ขี้ผึ้ง หรือการทาลิปสติก ควรงดเว้นเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ หากรู้สึกปากแห้งหรือแตก แนะนำให้ใช้คอตตอนบัตจุ่มน้ำเกลือแล้วทาบริเวณที่รู้สึกแห้งหรือแตกแทน