ใครที่มีเนื้อริมฝีปากบาง หรือมีปัญหาปากแห้ง มีรอยที่ริมฝีปาก หรือขอบปาก เวลาแต่งหน้า ทาลิปสติก แล้วเนื้อลิปสติกตกร่อง ทำให้มองดูแล้วมีอายุ แก่กว่าวัย ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก สารเติมเต็มประเภท HA จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้กับริมฝีปาก ทั้งยังช่วยปรับรูปปาก ให้อวบอิ่ม หรือทำปากให้เป็นกระจับได้ แต่ก็มีหลายเคสที่ฉีด ฟิลเลอร์ ปากไปแล้วเป็นก้อนแข็ง หรือฉีดแล้วปากไม่สวย ไม่ได้ทรงตามที่ต้องการ ซึ่งจะมีสาเหตุมาจากอะไร และมีวิธีการแก้ไขหรือไม่ นั้นต้องห้ามพลาดบทความนี้

การฉีดฟิลเลอร์ปาก

ลักษณะของริมฝีปากที่สวยเป็นแบบไหน ?

ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนเกิดจากสาเหตุดังนี้

ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนต้องแก้ไขอย่างไร ?

การฉีดสลายฟิลเลอร์

ไม่อยากให้ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนต้องทำตามนี้

การฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการทางการแพทย์ ที่เป็นการนำสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid (HA) ที่ถูกสร้างขึ้นมา ให้มีความใกล้เคียงกับสารธรรมชาติ ที่อยู่ในร่างกายของคนเรา ฟิลเลอร์จึงไม่ก่อให้เกิดอันตราย ต่อร่างกาย ทั้งอาการแพ้ หรือการทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ฟิลเลอร์สามารถสลายตัว ได้เองตามธรรมชาติ ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อปรับรูปทรงของริมฝีปากให้สวย ควรมีสัดส่วน ระหว่างริมฝีปากบน และริมฝีปากล่างเป็นอัตราส่วน 1:1.6 จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ปากดูอวบอิ่ม และฟิลเลอร์ที่ใช้ ในการปรับรูปทรงปาก นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม หรือตามทรงปากที่ต้องการ

ลักษณะของริมฝีปากที่สวยเป็นแบบไหน ?

• ริมฝีปากบน ควรมีร่อง มีขอบหยักที่ชัด เพื่อให้รูปปากดูมีมิติ
• สันของร่องริมฝีปากบน ควรเป็นสันที่ชัดเจน ไม่กว้างจนหรือมีลักษณะแบนราบจนเกินไป
• จะต้องมีมุมปากทั้งสองข้าง ที่ทำองศาให้มุมปากยกขึ้น
• รูปปากที่สวยควร มีขอบปากที่ชัดเจน มีความสม่ำเสมอทั้งริมฝีปากล่าง และริมฝีปากบน ขอบปากทั้งบนและล่าง ต้องมีสัดส่วนที่เท่ากัน
• รูปทรงปาก ที่สวยจะต้องมีเนื้อปากที่อวบอิ่ม ชุ่มชื้น ปากไม่ควรแตกแห้ง

ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนเกิดจากสาเหตุดังนี้

ผิวปริเวณริมฝีปาก นั้นจะค่อนข้างบาง และมีเส้นเลือดฝอย อยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นตำแหน่งที่เกิดการบวม ได้ง่าย หรือเป็นก้อนได้ง่าย เมื่อทำการฉีดฟิลเลอร์ เติมเต็มเข้าไปแล้ว ซึ่งอาการบวมสามารถพบได้ เป็นปกติ ไม่ได้เป็นอันตราย โดยหลังฉีดจะมีอาการบวม อยู่ประมาณ 2-3 วัน หรือถ้าหากเป็นคนที่ผิวบวมง่าย ก็อาจจะบวมได้นาน 5-7 วัน หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ ภายในระยะเวลา 7-14 วัน

แต่ถ้าหากฉีดไปแล้ว มีอาการบวม ไม่ยุบลง ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน จะต้องรีบพบแพทย์ ในทันที เพื่อวิเคราะห์ปัญหา และวางแผนการรักษา อย่างถูกต้อง และเหมาะสม ซึ่งอาการที่ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

• แพทย์ไม่มีความชำนาญ : แพทย์ขาดประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดผิดตำแหน่ง หรือฉีดผิดชั้นผิว ฉีดไปโดนเส้นเลือดจนเกิดการอุดตันของฟิลเลอร์
• การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม : ปากเป็นตำแหน่งที่มีการขยับบ่อยมากอีกตำแหน่งหนึ่งบนใบหน้า จึงต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีความยืดหยุ่นสูง ถ้าหากว่าเลือกใช้รุ่นที่เนื้อฟิลเลอร์แข็ง จะทำให้เห็นว่าปากเป็นก้อน ไม่เป็นธรรมชาติ
• การใช้ฟิลเลอร์ปลอม : การใช้ฟิลเลอร์ปลอมในการฉีดปากนั้นอีนตรายมาก เพราะมันไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และเมื่ออยู่ในร่างกายนานก็ จะไหลย้อย เป็นก้อนแข็ง

ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนต้องแก้ไขอย่างไร ?

หลังจากที่ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไปแล้ว อาการบวมไม่ยุบลง หรือสังเกตเห็นว่าฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน จะต้องเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการแก้ไข

• ถ้าหากว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ หรือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid (HA) ที่ผ่านมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจาก อย. จะสามารถฉีดสลายได้ โดยการใช้ เอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) หลังจากที่ฉีดไปฟิลเลอร์จะสามารถสลายตัวได้ประมาณ 60-70 % ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ยุบตัวลง และสลายตัวออกได้ทั้ง 100%
• แต่ถ้าใช้ ฟิลเลอร์ปลอม หรือสารเหลวที่ไม่ใช่ HA จะไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือนกับตัวฟิลเลอร์แท้ แต่จะต้องแก้ไขด้วยการขูดออกเท่านั้น ซึ่งในการขูดออกก็จะไม่สามารถนำฟิลเลอร์ปลอมออกได้หมด จะนำออกได้มากที่สุดเพียง 60-70% เท่านั้น

การฉีดสลายฟิลเลอร์

การฉีดสลายฟิลเลอร์จะเห็นผลได้ทันที โดยฟิลเลอร์จะสลายไปบางส่วน และมีการสลายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวยา HYAL จะใช้เวลาในการออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ประมาณ 1-3 วัน สำหรับกรณีที่ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนไม่มาก สามารถฉีดสลายได้ในครั้งเดียว แต่สำหรับก้อนฟิลเลอร์ขนาดใหญ่ หรือต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ในปริมาณที่มาก อาจจะต้องมีการฉีดสลายมากถึง 2 ครั้ง จึงจะสามารถสลายออกไปได้ทั้งหมด

ไม่อยากให้ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนต้องทำตามนี้

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
• ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจเกิดทำให้ปากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่าย
• งดการออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ๆ ที่จะส่งผลกระทบทำให้ปากเสียรูปทรงได้
• ไม่ควรลอกริมฝีปาก หรือดึงหนังบริเวณริมฝีปากออก เพราะมันเป็นการทำลายผิวปาก ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เพราะกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง