
ฉีด Filler ขมับ ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
มกราคม 14, 2023
ชาแนล บูสเตอร์ หน้าใส ซีรีส์ใหม่จากเกาหลี
มกราคม 18, 2023มาเช็คกันว่า ผิวหน้าของคุณ เริ่มหย่อนคล้อยแล้วหรือเปล่า ? จุดแรกให้สังเกตว่า คิ้วตก หนังตาตก หรือเปล่า ใต้ตาดูไม่สดใส ร่องแก้ม เริ่มสังเกตเห็นได้ชัดขึ้น หรือมุมปากเริ่มตก หรือในบางราย อาจจะเห็นเหนียง คางสองชั้น และกรอบหน้าไม่ชัดเจน ในการจัดการ ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ วิธีการยกกระชับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด นั่นก็คือ ไฮฟู่ และ Hifu คืออะไร ยกกระชับใบหน้าได้ยังไง จะมีขั้นการทำแบบไหน ต้องห้ามพลาดบทความนี้

Hifu คืออะไร
Hifu Macrofocus (Hight intensity focus ultrasound Macrofocus) คือคลื่นเสียงความเข้มข้นสูง ที่พัฒนามาจากคลื่นอัลตร้าซาวน์ ที่ทางการแพทย์ใช้ตรวจดูครรภ์มารดา จุดเด่นของไฮฟู่คือจะไม่เป็นอันตรายกับผิวหนังชั้นนอก เพราะไม่ได้เป็นคลื่นแสง และไม่ใช่ Laser คลื่นไฮฟู่ความเข้มข้นสูง จะถูกส่งลงไปยังผิวหนังชั้นที่ลึกที่สุด (ชั้น SMAS) เป็นชั้นพังผืดที่รองรับเนื้อเยื่อของผิวหนัง
หลักการทำงานของไฮฟู่ คือ การส่งพลังงานคลื่นลงไปแบบโฟกัสเป็นจุด โดยจะทำให้อุณหภูมิที่จุดนั้นสูงขึ้นถึง 65-70 องศาเซลเซียสในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งจะเกิดการทำลายและเกิดการหดตัวของคอลลาเจน เซลล์บางส่วนที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ให้ผลลัพธ์คือผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวเรียบเนียนและดูอ่อนกว่าวัย
Hifu แก้ไขปัญหาผิวได้อย่างไรบ้าง
นวัตกรรมการใช้คลื่นเสียงไฮฟู่เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้า นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อย ถึงปานกลาง หรือถ้าเทียบกับช่วงอายุที่เหมาะสมก็ต้องมีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นคนผิวขาวเท่านั้น ไม่ว่าจะมีผิวโทนไหนก็สามารถทำไฮฟู่ได้ นอกจากปัญหาความหย่อนคล้อยแล้วก็ยังสามารถใช้ลดริ้วรอย ใช้ในการปรับรูปหน้า ลดเหนียง ยกแนวคิ้วได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด สามารถทำได้บ่อยครั้งตอบโจทย์มากกับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า
สำหรับการทำไฮฟู่ จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเมื่อทำซ้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป และอาจจะต้องกลับมาทำซ้ำทุก 1 เดือนใน 3 ครั้งแรก หลังจากนั้นสามารถมาทำซ้ำได้ทุก ๆ 3-6 เดือน และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้นานประมาณ 6 เดือน และสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี ถ้าหากมีการทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง และมีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
คลื่นเสียงที่มีความเข้มข้นสูงอย่าง Hifu Macrofocus สามารถใช้แก้ปัญหาผิวได้ทุกบริเวณ เพราะตัวเครื่องสามารถเปลี่ยนหัวยิงคลื่นเสียงได้หลากหลายระดับ ตามความลึกของผิวที่บริเวณนั้น ๆ
- ใต้ตา : ทำไฮฟู่เพื่อช่วยลดริ้วรอยใต้ตา และบริเวณรอบดวงตา สามารถใช้หัวยิงเก็บรายละเอียดรอยเล็กๆ ได้อย่างทั่วถึง ทำให้ผิวตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้น
- แก้ม : สามารถทำไฮฟู่เพื่อยกกระชับแก้ม ลดความหย่อนคล้อย ทำให้เห็นกรอบหน้าชัดเจนขึ้น ปรับรูปหน้าเป็น V-Shape ลดไขมันบริเวณแก้ม และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ยกกระชับขึ้นได้
- เหนียง : เหนียงที่บริเวณคาง ส่งผลให้เกิดคางสองชั้น มีสาเหตุมาจากไขมันสะสมที่บริเวณใต้คาง มีไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้ามาก สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการทำไฮฟู่ จะให้ผลลัพธ์ที่ดี เป็นที่น่าพอใจ ถ้าเป็นเหนี่ยงที่เกิดจากการหย่อนคล้อยของผิวหนัง ก็สามารถใช้ไฮฟู่เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังเกิดการกระชับขึ้นได้
- ร่างกาย : บริเวณส่วนอื่น ๆ ของร่างกายที่มีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น แขน ขา สะโพก ก็สามารถทำไฮฟู่เพื่อกระชับสัดส่วนบริเวณดังกล่าวได้ เพราะไฮฟู่จะใช้ได้ผลดีกับบริเวณที่มีไขมันสะสม และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวยกกระชับ

การทำ HIfu มีข้อดีดังนี้
- ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด
- ไม่มีรอยแดงช้ำ
- ไม่ต้องรอการพักฟื้นนานๆ
- มีความปลอดภัยต่อผิวสูง ไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก
- ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอยและสลายไขมันได้บางส่วน
- ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรง
- ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ Hifu ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้
ข้อควรปฏิบัติหลังจากการทำ Hifu
- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ หลังเข้ารับการรักษา
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นตัวการทำลายคอลลาเจน
- ไม่นวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ
- หากมีอาการตึงผิวสามารถทานยาแก้ปวดได้
- หากมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง แนะนำเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที
5 ข้อควรรู้ก่อนการทำ Hifu
- ก่อนการทำไฮฟู่เพื่อยกกระชับใบหน้า ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ หรือฉีดโบ เพราะความร้อนจากการทำไฮฟู่จะส่งผลให้ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของตัวฟิลเลอร์และโบนั้นสั้นลง
- งดแต่งหน้า การใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า ทั้งนี้รวมไปถึงสกินแคร์ หรือครีมบำรุงด้วย เพราะก่อนการทำไฮฟู่จะต้องมีการทำความสะอาดใบหน้า และทาเจลสำหรับการทำไฮฟู่โดยเฉพาะ ลงบนบริเวณที่ต้องการยกกระชับ
- หากมีประวัติว่าเคยเป็นเริม ต้องทานยาป้องกันเชื้อก่อนการทำไฮฟู่เป็นเลาอย่างน้อย 2 วัน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในภายหลัง
- ควรถอดเครื่องประดับต่าง ๆ ออกก่อนการทำไฮฟู่ ทั้งต่างหู จิลจมูก หรือเครื่องประดับอื่น ๆ ที่บริเวณใบหน้า เพราะเครื่องประดับเหล่านี้จะก่อให้เกิดปัญหากับเครื่อง Hifu และอาจจะส่งผลต่อผู้เข้ารับบริการได้อีกด้วย
- ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับบริการ ต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญก่อน เพื่อที่จะได้เห็นถึงปัญหาของผิวหน้าที่แม่นยำ และตรงจุด เพื่อให้การทำไฮฟู่ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลังได้