
6 สิ่งที่ต้องทำหลังจากศัลยกรรม ปลูกผม
ธันวาคม 18, 2022
ตาสองชั้น กรีดสั้น เหมาะกับใครบ้าง ?
ธันวาคม 20, 2022
Pico Laser เทคโนโลยีของเลเซอร์สุดล้ำในตอนนี้ สามารถช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่ฝังเกาะอยู่ที่ผิวหน้าของเรา ปัญหาผิวหน้าที่สะสมลงไปถึงชั้นผิวแบบนี้การทาครีมบำรุงอย่างเดียวอาจไม่ได้ตอบโจทย์ในการรักษารอยฟ้า กระ จุดด่างดำเหล่านี้จึงต้องอาศัยเทคโนโลยีเลเซอร์ โดย Pico นั้นจะปล่อยพลังงานความถี่สูงในระดับ Picosecond ที่ความเร็วสูงสุด 1 ต่อ ล้านล้านวินาที มีความจำเพาะสูงต่อเม็ดสีทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ อาทิเช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดง หลุมสิว รูขุมขนกว้างและ รอยสักหลากสี
ให้ผลการรักษาทั้งแบบ Fractional และ Non-fractional ส่งผลในการระเบิดเม็ดสีในชั้นผิวชั้นตื้น และชั้น Papilla dermis ที่ลึกลงไปให้มีอนุภาคขนาดเล็กมากจากแรงดันมหาศาลของ Photoacoustic impact ส่งผลทำให้เม็ดสีแตกกระจายออกจากเป็นชิ้นส่วนละเอียดขนาดจิ๋วอย่างมากและถูกขับออกอย่างง่ายดายโดยไม่กระทบเนื้อเยื่อปกติที่อยู่ข้างเคียง จึงลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากผลของความร้อน ลดโอกาสการเกิด PIH (post-inflammatory hypo & hyper pigmentation) หรือภาวะรอยดำหรือรอยด่างขาว หลังการอักเสบ และผลข้างเคียงอื่นเช่น แผลเป็น ที่หายช้า และต้องพักหน้านานซึ่งเป็นผลมาจากความร้อน ซึ่งพบได้จากการรักษาด้วยเลเซอร์แบบดั้งเดิม
ในขณะที่การรักษาด้วย picosecond laser ซึ่งเป็นการส่งพลังงานแบบ Ultra-short pulse duration เหนือกว่าเลเซอร์แบบดั้งเดิม จึงส่งผลให้เกิดเป็นแรงดันมหาศาล แทนที่ความร้อน ระเบิดอนุภาคเม็ดสีให้แหลกละเอียด จนร่างกายสามารถกำจัดออกได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่ใช้เลเซอร์ในการรักษาปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ เช่น การรักษากระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ด้วยพลังงานสูงในช่วงระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ ทำให้เม็ดสีแตกตัวได้มีประสิทธิภาพ และใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าเครื่องเลเซอร์อื่น ๆ พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Pico Laser ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย และทำให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
Pico Laser เลเซอร์ตำแหน่งใดได้บ้าง
Pico ถูกนำมาใช้ในการรักษาปัญหาผิวในหลายส่วน เพราะไม่เพียงแต่สามารถใช้รักษารอยกระหรือปัญหาผิวบริเวณใบหน้าเท่านั้นแต่ Pico ยังสามารถเลเซอร์เพื่อลดเลือนรอยต่าง ๆ ตามร่ายกายทั้งบริเวณแขน หลังมือ หรือตามลำตัวได้ นอกจากนี้ Pico ยังถูกนำมาใช้เพื่อรักษาอาการผิวคล้ำบริเวณริมฝีปาก รักแร้ และฐานนมได้อีกด้วย

Pico กับ Q-Switch เหมือนกันหรือไม่
ต้องอธิบายก่อนว่า Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์พลังงานสูงที่สามารถทำให้เม็ดสีแตกตัว และไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง และเมื่อเม็ดสีที่มีความผิดปกติเกิดการแตกตัว เม็ดเลือดขาวในร่างกายก็จะทำการกำจัดเม็ดสีเหล่านั้นออกไป เครื่อง Q-Switch จะมีด้วยกันหลายชนิด แต่ที่นิยมนำมาใช้มากที่สุดจะเป็นตัวที่สามารถผลิต Q-Switch laser ได้ที่ความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร และความยาวคลื่น 532 นาโนเมตร เพราะสามารถนำมาใช้เพื่อการรักษา และการดูแลปรับสภาพผิวได้หลากหลาย ซึ่งมีข้อแตกต่างจาก พิโค่เลเซอร์ ดังนี้
- Picosecond Laser ให้พลังงานสูงกว่า Q-Switch Laser ในระยะเวลาที่สั้นกว่า จึงทำให้เม็ดสีสามารถแตกตัวได้ละเอียดมากกว่า
- Picosecond Laser ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า และรอยโรคจางหายได้เร็วกว่าการรักษาด้วย Q-Switched Laser อย่างการลบรอยสัก Q-Switched อาจใช้ระยะเวลาการรักษาที่ต่อเนื่องถึง 10 ครั้ง รอยสักถึงจะค่อยๆจางลง แต่ พิโค่เลเซอร์ การทำเลเซอร์เพียง 3 ครั้งก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงและรอยสักก็จางลงเยอะแล้ว
- การรักษาด้วย Picosecond Laser ระหว่างทำมีความเจ็บน้อยกว่าการรักษาด้วย Q-Switched Laser
- Picosecond Laser สามารถช่วย “กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน” จึงไม่เพียงแต่ทำให้ ฝ้า กระ รอยดำจางหายไป แต่ยังช่วยให้ผิวมีความเนียน และขาวกระจ่างใส ริ้วรอยลดน้อยลง ไปพร้อมกัน ในขณะที่ Q-Switched Laser ช่วยในเรื่องของผิวขาวได้เพียงอย่างเดียว แต่ไม่ช่วยในเรื่องของความเรียบเนียน

ประโยชน์ของ Pico Laser
- รักษารอยสิว รอยดำสิว จุดด่างดำ
- รักษากระ กระตื้น หรือ กระแดด กระลึก
- รักษาฝ้า เลเซอร์ฝ้า ให้จางลงได้- รักษาหลุมสิว เลเซอร์หลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้
- รักษารูขุมขนกว้าง เลเซอร์กระชับรูขุมขน
- ลบรอยสัก ปานโอตะ
- ปรับสภาพผิว สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ

ต้องทำการเลเซอร์กี่ครั้งถึงจะเห็นผล
ผลลัพธ์ในการเลเซอร์ขึ้นอยู่กับบุคคล เนื่องจากปัญหาและรอยคล้ำฝังลึกของลูกค้าแต่ละท่านไม่เหมือนกัน โดยการทำ พิโค่เลเซอร์ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรก โดยรอยจะค่อยๆจางลง แนะนำว่าควรทำมากกว่า 3-4 ครั้งขึ้นไปเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ผิวมีความเรียบเนียน อีกทั้งยังเป็นการผลักกระตุ้นให้ผิวดูกระจ่างใส เพราะ พิโค่เลเซอร์ เป็นตัวกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
ข้อควรระวังสำหรับการทำ พิโค่เลเซอร์ คือถ้าหากมีการทำอย่างต่อเนื่องไปที่จุดเดิม บริเวณเดิมเป็นการยิงแสงเลเซอร์ย้ำไปเป็นเวลานานจนเกินไป ความสามารถในการกระจายตัวของความร้อนไปยังเนื้อเยื่อรอบข้างก็เพิ่มขึ้น ทำให้อุณหภูมิที่ผิวหนังสูงขึ้น จึงทำให้เกิดความเสี่ยงหรือโอกาสที่เกิดด่างขาวหลังจากการทำเลเซอร์ และสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นม ผู้ที่มีปัญหาทางผิวหนัง และผู้ที่มีปัญหาหลอดเลือด ไม่ควรทำ พิโค่เลเซอร์ ทั้งนี้รวมถึงผู้ที่เคยมีประวัติโรคลมชัก หรือลมบ้าหมูด้วย