ดวงตากลมโต สดใส เป็นดวงตาในฝันของสาว ๆ หลายคนโดยเฉพาะคนไทย เพราะโดยปกติแล้วสาวเอเชียจะมีดวงตาที่เล็กกว่าคนเชื้อชาติอื่น การผ่าศัลยกรรมดวงตาจึงเป็นทางออกของปัญหาดวงตาเล็ก หนังตาตก ที่ทำให้ใบหน้าดูเศร้า ๆ ไม่สดใส และการทำตาสองชั้นยังมีเทคนิคที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมกับปัญหาดวงตาที่เกิดขึ้น ซึ่งเทคนิคการทำ ตาสองชั้น กรีดสั้น หรือแบบ กรีดยาว จะแตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับดวงตาของใครบ้างนั้นสามารถติดตามรายละเอียดได้ในบทความนี้

การศัลยกรรมดวงตา (EYE SURGERY)

การทำศัลยกรรมดวงตา เป็นหัตถการที่เน้นการแก้ไขปัญหาบริเวณดวงตา ทั้งตาเล็ก ตาสองชั้นหลบใน ปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน หรือไม่มีชั้นตา ทำให้ดวงตาสดใส มีชั้นตาที่สวย มีความมั่นใจมากขึ้น และยังจะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น และการทำตาสองชั้น หรือการแก้ไขตกแต่งชั้นตา ยังช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก ซึ่งเกิดจากผิวที่หย่อนคล้อยตามแรงดึงดูดของโลก ที่ทำให้การมองเห็นเป็นไปได้อย่างยากลำบาก

ความแตกต่างของการทำ ตาสองชั้น กรีดสั้น และ ตาสองชั้นกรีดยาว

ในการตัดสินใจผ่าตัดศัลยกรรมดวงตา จำเป็นจะต้องทราบปัญหาของชั้นตาที่เกิดขึ้นก่อน เพื่อที่จะได้พิจารณาถึงรูปแบบการผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งรูปแบบการผ่าตัดโดยส่วนใหญ่จะถูกแบ่งออกเป็นสองเทคนิคหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้

1. แบบกรีดสั้น

การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น จะเป็นเทคนิคการผ่าตัดโดยการกรีดเปิดแผลช่วงกลางเปลือกตาบน แผลจะยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร จากนั้นจึงนำเอาไขมันส่วนเกินบริเวณชั้นหนังตาออก แล้วจึงทำการเย็บชั้นตาแล้วจึงปิดแผล ซึ่งจะมีเทคนิคการเย็บแผลเพื่อให้ได้ชั้นตาที่เนียนและเป็นธรรมชาติที่สุด หลังจากการผ่าตัดจะใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการทำตาแบบกรีดยาว ข้อจำกัดของการทำตาแบบกรีดสั้น คือ ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณเปลือกตาเยอะ เปลือกตาหย่อน หรือหนังตาเยอะ 

การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นจะเหมาะกับคนที่มีอายุไม่เกิน 35 ปี เพราะมีผิวหนังที่ตึงกว่าทำให้การกรีดแบบสั้นจะได้ผลลัพธ์ของชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ และการกรีดแบบสั้นยังเหมาะกับการแก้ไขปัญหาดวงตาเล็ก ตาชั้นเดียว ผู้ที่มีชั้นตาเล็ก ชั้นตาไม่เท่ากัน ตาสองชั้นแบบหลบใน และผู้ที่มีไขมันบริเวณเปลือกตาน้อย

2. แบบกรีดยาว

การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว จะเป็นเทคนิคการผ่าตัดโดยการกรีดเปิดแผลที่บริเวณหนังตาด้านบน โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงหัวตา กรีดยาวไปจนถึงบริเวณหางตา หรือแผลที่มีความยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร และทำการเอาไขมันส่วนเกินปริเวณเปลือกตาออก อาจจะมีการตัดหนังตาที่เป็นส่วนเกินออกด้วยในบางเคส จากนั้นจึงเย็บเปลือกตาให้เป็นสองชั้นตามที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้ได้ชั้นตาที่คมชัด ดวงตาดูกลมโตมากยิ่งขึ้น การกรีดแบบยาวจะช่วยแก้ปัญหาได้ครอบคลุมมากกว่าการกรีดแบบสั้น

การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาตก มีความหย่อนคล้อยมาก เกิดจากอายุที่มากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อการมองเห็น เหมาะสำหรับผู้ที่มีชั้นตาหลบใน มีไขมันใต้เปลือกตามาก ผู้ที่มีผิวเปลือกตาหนา หรือกล้ามเนื้อใต้เปลือกตาหนามาก และการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้อีกด้วย

ระยะเวลาการผ่าตัดและการพักฟื้น

การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น : จะเป็นการเย็บเปลือกตาที่ใช้เวลาน้อยกว่าการกรีดแบบยาว ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 30-45 นาที หลังจากทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้ทันที แผลผ่าตัดจะมีโอกาสเกิดการบวมช้ำได้น้อย และใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากการผ่าตัดประมาณ 3-4 สัปดาห์

การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว : สำหรับการทำตาสองชั้นแบบเทคนิคกรีดยาวจะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากการผ่าตัดดวงตาจะค่อนข้างบวมช้ำ ต้องมีการพักฟื้นเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจำเป็นจะต้องมีการดูแลตนเองหลังจากการผ่าตัดค่อนข้างมาก และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจาก 1- 2 เดือนไปแล้ว

ข้อดีของเทคนิคกรีดตาสั้น

• มีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก
• การเย็บชั้นตาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
• หลังจากการผ่าตัด ไม่มีอาการบวมช้ำ
• แผลหลังจากที่ผ่าตัดหายได้ไว
• เมื่อทำแล้วดวงตาดูสดใสขึ้น
• ช่วยแก้ไขปัญหาขนตา ทำให้ขาตางอนขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ

ข้อดีของเทคนิคกรีดยาว

• หลังจากผ่าตัดแล้วจะได้ชั้นตาที่สวย คมชัด
• มีดวงตาที่กลมโต แบบเป็นธรรมชาติ
• หางตาดูยกขึ้น และหนังตาจะไม่ตก
• ดวงตาดูสดใสมากขึ้น
• ชั้นตาที่ได้จะยังสวยอยู่ได้ในระยะยาว
• ช่วยแก้ปัญหาชั้นตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเปรียบเทียบดูแล้วจะทำให้พบว่า ข้อเสียของการทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น เมื่อทำไปนานแล้วถ้าหากไม่มีการดูแลตัวเองที่ดีพอ อาจจะทำให้ชั้นตาหลุด หรือเกิดชั้นตาที่ไม่เท่ากันได้ และข้อเสียการผ่าตัดทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว จะมีแผลหลังจากการผ่าตัดชัดเจนกว่าแบบกรีดสั้น หรือเทคนิคแผลเล็ก และถ้าหากว่ามีความกังวลเกี่ยวกับแผลจากการทำตาสองชั้น ก็ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าผิวหนังบริเวณเปลือกตาเป็นส่วนที่บางที่สุดของร่างกาย จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดรอยแผลเป็น หรือแผลคีลอยด์ในบริเวณที่ผ่าตัด ถ้าหากเลือกทำตากับศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญทางด้านการทำตาสองชั้นโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวย แผลผ่าตัดเรียบเนียนสวยงาม