
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ปรับรูปหน้าให้สวยหวานอย่างเป็นธรรมชาติ
พฤศจิกายน 26, 2022
เทคนิค ตอกฐานจมูก ปรับโครงสร้างก่อน เสริมจมูก
ธันวาคม 7, 2022เคยสงสัยมั้ยว่าต้องใช้เทคนิคไหนในการเสริมจมูกให้ได้ทรงที่สวย ปลายพุ่ง และซิลิโคนไม่ทะลุ ? ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วศัลยแพทย์มักจะนำ เนื้อเยื่อเทียม Megaderm ที่ออกแบบมาให้ใช้ในทางการแพทย์ เกี่ยวกับการศัลยกรรมตกแต่ง มาใช้กับการเสริมจมูก รวมไปถึงใช้ในการแก้จมูกด้วย
เพราะเนื้อเยื่อเทียมถูกนำมาใช้รองปลายจมูก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลายจมูกยาวขึ้น ดูพุ่งสวยเป็นธรรมชาติ ตัวเนื้อเยื่อเทียมนี้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการเสริมความงามของเกาหลี และในไทยเองก็เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมเอาข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ มาไว้ในบทความนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับ Megaderm มากขึ้น

Megaderm
เนื้อเยื่อเทียม Megaderm เป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นจากสารธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการ Biotechnology โดยเนื้อเยื่อเทียมจะมีลักษณะที่เป็นรูพรุนคล้ายกับฟองน้ำเป็นแผ่นนิ่ม ๆ มีลักษณะเป็นโครงข่ายคล้ายนั่งร้านซ้อนไขว้กันไปมา เช่นเดียวกับโครงสร้างผิว ตัวเนื้อเยื่อเทียมจะผ่านกระบวนการทดสอบด้านน้ำเหลืองวิทยาแล้ว และเนื้อเยื่อเทียมยังคงโครงสร้างของผิวหนังไว้ได้ ทำให้มีการสร้างเส้นเลือดใหม่ การเติบโตของเส้นประสาท และการสร้างคอลลาเจน
ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อผิวตามธรรมชาติ และสามารถใช้แทนผิวหนังเพื่อรองรับเนื้อเยื่อต่าง ๆได้ จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และทำให้สามารถนำมาใช้ในการทำศัลยกรรมจมูก ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาผิวหนังปลายจมูกบาง ปลายจมูกใกล้ทะลุ รองปลายจมูกเพื่อเสริมให้ปลายยาวขึ้น และยังลดโอกาสการเกิดจมูกทะลุได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหนังปลายจมูกบาง หรือคนที่เคยฉีดสารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์มาก่อน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ปลายจมูกค่อย ๆ บางลงนั่นเอง
การเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม
เนื้อเยื่อเทียมถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ในหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้รักษาแผลจากไฟไหม้ เพื่อเติมผิวหนังให้มีความเติมเต็มมากขึ้น ทำให้แผลสมานได้ไวขึ้น รวมไปถึงการใช้ในการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านม สำหรับเคสที่ผ่าตัดหน้าอก เช่น ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านม และในปัจจุบันในวงการเสริมความงามก็นิยมนำเอาเนื้อเยื่อเทียมมาใช้สำหรับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกกันอย่างแพร่หลาย
โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะนิยมเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน ซึ่งจะใช้ซิลิโคนตลอดแนวตั้งแต่ช่วงสันจมูกไปถึงบริเวณปลายจมูก และในบางกรณีสำหรับคนที่มีเนื้อจมูกน้อย ผิวหนังบาง จึงจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างมากที่บริเวณปลายจมูก เพราะเป็นตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุได้ง่ายที่สุด เนื้อเยื่อเทียมเลยถูกนำมาใช้รองปลายจมูก เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการทะลุของซิลิโคน หรือลดการบางลงของปลายจมูกได้
การใช้เทคนิคเนื้อเยื่อเทียมนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดจมูกทะลุได้ในอนาคต และยังทำให้ปลายจมูกพุ่ง สันจมูกโด่ง ได้ทรงจมูกสวยเป็นธรรมชาติ การใช้เนื้อเยื่อเทียมมารองปลายจมูกสามารถใช้แทนการเสริมด้วยกระดูกหลังหูได้ ดังนั้นจึงลดการเกิดแผลผ่าตัดได้อีก 1 จุด ไม่ต้องเจ็บและมีแผลหลายที่ เพราะไม่ต้องทำการผ่าตัดเพื่อนำเอากระดูกหลังหูออกมาเพื่อใช้รองปลายจมูก
เนื้อเยื่อเทียม เสริมจมูกแบบไหนได้บ้าง
เคสเสริมจมูกใหม่ หรือเสริมครั้งแรก สามารถเสริมด้วยเทคนิคเพิ่มรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมได้
เคสเสริมจมูกที่มีเนื้อน้อย ผิวหนังบาง ปลายจมูกบาง ก็สามารถเสริมรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียม เพื่อป้องกันผิวบาง ปลายจมูกบาง และป้องกันการทะลุในอนาคตได้
เคสแก้จมูก ที่มีปัญหาปลายจมูกบาง สามารถแก้ไขด้วยการรองปลายด้วยเนื่อเยื่อเทียมได้เช่นกัน แต่ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
เทคนิคการรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียม
เนื้อเยื่อเทียม จะถูกนำมาใช้ได้ในหลายกรณีและใช้ได้กับหลาย ๆ ส่วนของร่างกาย ซึ่งเนื้อเยื่อเทียมที่ถูกใช้ในแต่ละส่วนก็จะมีขนาดแตกต่างกันออกไป และขนาดที่นิยมนำมาใช้เสริมรองปลายในการศัลยกรรมจมูกจะมี 2 ขนาดด้วยกัน คือ
- ขนาด 1×1 ซม. : เนื้อเยื่อเทียมขนาด 1×1 เซนติเมตร ที่มีความหนาตั้งแต่ 3 มิลลิเมตรขึ้นไป เพราะเป็นความหนาที่พอด ในการนำมาใช้รองปลาย เพื่อเพิ่มความหนาของบริเวณปลายจมูก แทนกระดูกอ่อนหลังหู
- ขนาดความยาว 4-5 ซม. : ส่วนเนื้อเยื่อเทียมที่มีความยาม 4-5 เซนติเมตร และมีความบางที่ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร จะถูกนำมาใช้คลุมแท่งซิลิโคน เพื่อทำให้สันจมูกมีความหนา เหมาะสำหรับเคสที่ผิวบาง หรือผิวไม่เรียบสม่ำเสมอ
และในเคสที่ต้องรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียม ศัลยแพทย์จะนำเนื้อเยื่อเทียมขนาด 1×1 เซนติเมตร มาทำการตัดแต่งให้ได้รูป และขนาดที่ต้องการ ซึ่งโดยปกติทั่วไปจะตัดแต่งให้เป็นลักษณะเป็นรูปวงกลม หรือวงรี เพื่อให้โค้งรับกับเนื้อเยื่อบริเวณปลายจมูก หลังจากที่ได้รูปทรงที่ต้องการแล้ว เนื้อเยื่อเทียมจะถูกนำไปแช่น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ เพื่อให้สะอาดปราศจากเชื้อ จากนั้นจะนำไปเย็บติดกับซิลิโคนด้วยไหมละลาย และนำเอาซิลิโคนที่โคนปลายมีเนื้อเยื่อเทียมติดอยู่เสริมเข้าไป

ข้อดีของเสริมจมูกโดยใช้เนื้อเยื่อเทียม
- เป็นการนำวัสดุที่มีความปลอดภัยสูงมาใช้ในการผ่าตัดเสริมจมูก โดยไม่ต้องผ่าตัดเอากระดูกอ่อนบริเวณหลังหูมาใช้
- ช่วยเพิ่มความหนาให้กับปลายจมูก และยังช่วยลดการสัมผัส การเสียดสี ระหว่างตัวซิลิโคน กับผิวโดยตรง
- เนื้อเยื่อเทียมจะมีความนิ่มกว่า กระดูกอ่อนหลังใบหู และโดยปกติจะต้องมีการเหลาลบคม ลบเหลี่ยมกระดูกอ่อนหลังหูก่อนนำมาใช้ ซึ่งสำหรับคนไข้ที่เสริมใหม่ จะเหมาะกับการใช้เนื้อเยื่อเทียมมากกว่า
ข้อควรระวัง
- ควรระมัดระวังในเรื่องของความสะอาดโดยการฆ่าเชื้อ เพื่อลดการอักเสบ และการติดเชื้อ
- ศัลยแพทย์ต้องวางเนื้อเยื่อเทียมให้ถูกตำแหน่ง และต้องใช้ขนาดความหนาที่พอดี ไม่ฝืนให้จมูกโด่งจนเกินไป
- สำหรับเคสที่มีปัญหาปลายจมูกมาก่อนอยู่แล้ว เช่น ติดเชื้อ ซิลิโคนจะทะลุ มีอาการบวมแดง อักเสบ ผิวบาง เนื้อบุ๋ม อาจจะต้องนำเนื้อเยื่อบริเวณหลังใบหูมาใช้ (ไม่ใช่กระดูกอ่อนหลังใบหู) ซึ่งจะซ่อมแซมได้ดีกว่า
- เนื้อเยือเทียม สามารถเกิดการฝ่อ หรือการยุบตัว หรือสลายไปได้เมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นจำเป็นจะต้องใส่เนื้อเยื่อเทียมให้พอเหมาะ พอดี โดยที่เวลายุบแล้วจมูกยังมีความโด่งอยู่
ถ้าหากว่าใครวางแผนกำลังอยากจะแก้จมูก อยากได้ทรงจมูกสวย ๆ ที่รับกับใบหน้า จำเป็นจะต้องศึกษาข้อมูลให้เข้าใจเสียก่อน เพราะจะช่วยทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และยังลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ภายหลังจากการเสริมจมูกอีกด้วย เช่น อาการอักเสบ จมูกทะลุ เป็นต้น และถ้าหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เนื้อเยื่อเทียมสามารถปรึกษาได้ที่ Ticha Clinic เพราะเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำปรึกษา คลินิคของเราสะอาด ได้มาตรฐาน และพร้อมให้บริการเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณพึงพอใจมากที่สุด